นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนพฤษภาคม 2567 ดังต่อไปนี้
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤษภาคม 2567 มีทั้งสิ้น 126,161 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 16.19 ลดลงจากการผลิตรถกระบะขายในประเทศลดลงร้อยละ 54.66 และผลิตรถยนต์นั่งขายในประเทศลดลงร้อยละ 14.35 ตามยอดขายในประเทศที่ลดลงจากเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่พร้อมเต็มที่ แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2567 ร้อยละ 20.54
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 644,951 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 16.88
รถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 46,951 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 7.74 โดยแบ่งเป็น
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มีจำนวน 240,190 คัน เท่ากับร้อยละ 37.24 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 11.29 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนพฤษภาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 83.87
รถยนต์บรรทุก เดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 79,210 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 20.49 และตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 404,751 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 19.87
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 78,319 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 19.05 และตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 394,321 คัน เท่ากับร้อยละ 61.14 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 19.87 โดยแบ่งเป็น
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน เดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 891 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 69.03 รวมเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 10,430 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 19.78
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 88,808 คัน เท่ากับร้อยละ 70.39 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 1 ส่วนเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 434,416 คัน เท่ากับร้อยละ 67.36 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 2.54
รถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 25,284 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 1.21 และตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 127,881 คัน เท่ากับร้อยละ 53.24 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 3.13
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤษภาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 63,524 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 0.92 และตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 306,535 คัน เท่ากับร้อยละ 77.74 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 4.73 โดยแบ่งเป็น
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 37,353 คัน เท่ากับร้อยละ 29.61 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 38.57 และเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตได้ 210,525 คัน เท่ากับร้อยละ 32.64 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 36.23
รถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 21,667 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 14.35 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ผลิตได้ 112,309 คัน เท่ากับร้อยละ 46.76 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ลดลงร้อยละ 23.47
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนพฤษภาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 14,795 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 54.66 และตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 87,786 คัน เท่ากับร้อยละ 22.26 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 48.48 ซึ่งแบ่งเป็น
เดือนพฤษภาคม 2567 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 191,970 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 12.30 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 168,190 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 15.62 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 23,780 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 21.51
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,013,665 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 5.64 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 837,975 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 8.96 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 175,690 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 14.21
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,871 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2567 ร้อยละ 6.70 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 23.38 เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวในอัตราต่ำจากการล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ทำให้การลงทุนของภาครัฐลดลง ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงติดต่อกันมากกว่าสิบเดือน โรงงานหลายแห่งลดเวลาทำงานลงและมีการเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน ทำให้ขาดรายได้ ประชาชนจึงระมัดระวังการใช้จ่ายเพราะความไม่แน่นอนในเรื่องรายได้รวมทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทางและพลังงานมีราคาสูงขึ้น คาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และปี 2568 ที่่กำลังพิจารณาในสภาฯ แต่เศรษฐกิจจะขยายตัวถึงร้อยละ 3 หรือไม่ ยังน่ากังวลถ้ายอดผลิตรถยนต์และขายรถยนต์ และขายอสังหาริมทรัพย์ยังติดลบ เพราะทั้งสองอุตสาหกรรมมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องและแรงงานมากซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศมาก
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 29,679 คัน เท่ากับร้อยละ 59.51 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 13.71
รถกระบะมีจำนวน 14,832 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 33.87 รถ PPV มีจำนวน 2,819 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 42.42 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,280 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 35.90 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,261 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 8.09
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 165,339 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2566 ร้อยละ 30.14 แต่ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 10.19
ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 260,365 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 23.80 แยกเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 156,386 คันเท่ากับร้อยละ 60.06 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 7.60
รถกระบะมีจำนวน 75,510 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 40.80 รถ PPV มีจำนวน 16,255 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 42.09 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 6,807 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 35.33 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 5,407 คัน ลดลงจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 14.28
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 739,988 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 9.16 แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ICE จำนวน 739,788 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 9.08 รถจักรยานยนต์ HEV จำนวน 200 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 1.96
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนพฤษภาคม 2567 ส่งออกได้ 89,284 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 27.26 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 3.39 เพิ่มขึ้นทั้งที่ผลิตเพื่อส่งออกลดลง เพราะมีรถยนต์ที่ยังไม่ได้ส่งออกเดือนที่แล้วมาส่งออกเดือนนี้ จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตลาดออสเตรเลีย ตลาด ตะวันออกกลาง ตลาดอเมริกาเหนือ ตลาดอเมริกากลางและอเมริกาใต้ แบ่งเป็น
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 63,073.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 14.74
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 83,754.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 12.93
เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 429,969 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 2.28 แบ่งเป็น
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 300,375.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 9.92 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 401,637.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 9.23
รถจักรยานยนต์
เดือนพฤษภาคม 2567 มีจำนวนส่งออก 53,105 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากเดือนเมษายน 2567 ร้อยละ 0.63 และลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 7.96 โดยมีมูลค่า 4,608.60 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 14.41
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนพฤษภาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 4,826.17 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2566 ร้อยละ 17.34
เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 359,603 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 0.74 มีมูลค่า 28,584.82 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 5.53
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 30,313.17 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2566 ร้อยละ 6.47
เดือนพฤษภาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 88,580.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 10.72
เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 431,950.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 7.95
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพฤษภาคม 2567
เดือนพฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 8,166 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 14.50 โดยแบ่งเป็น
เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 43,921 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - พฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 31.64 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนพฤษภาคม 2567
เดือนพฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 10,789 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 34.64 โดยแบ่งเป็น
เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 59,317 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - พฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 53.48 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนพฤษภาคม 2567
เดือนพฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 704 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 31.32 โดยแบ่งเป็น
เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 4,053 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤษภาคมปีที่แล้วร้อยละ 22.01 โดยแบ่งเป็น
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567
ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 175,316 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 168.34 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567
ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 402,414คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 35.06 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567
ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 57,951คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 21.89 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
27 มิถุนายน 2567
ผู้ชม 18 ครั้ง