กว่า 15 ปีแล้ว ที่พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางสำคัญของแบรนด์ นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2552 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ต้อนรับผู้มาเยี่ยมชมถึงกว่า 6 ล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นที่รวบรวมคอลเลกชันอันน่าประทับใจรวมถึงคลังข้อมูลของบริษัทเท่านั้น แต่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยร้อยเรียงประวัติศาสตร์ของปอร์เช่ที่ยังคงดำเนินอยู่และดำเนินต่อไป
สตุ๊ทการ์ท. เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2552 หรือเมื่อ 15 ปีที่แล้ว พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ (Porsche Museum) ได้เริ่มเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลกเป็นครั้งแรก จนถึงปัจจุบันมีคนจำนวนถึง 5,824,325 คน ที่ได้เดินทางเข้ามาชมเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์และการพัฒนาเติบโตของแบรนด์ปอร์เช่อันน่าทึ่งนี้ ตัวเลขนี้ได้รวมถึงแขกผู้มีชื่อเสียงอย่าง ปารีส ฮิลตัน (Paris Hilton), แบคสตรีทบอยส์ (Backstreet Boys), วลาดิเมียร์ คลิทช์โก้ (Vladimir Klitschko), อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger), มาริโอ บาร์ธ (Mario Barth), แพทริค เดมป์ซีย์ (Patrick Dempsey), เอซี/ดีซี (AC/DC), ปีเตอร์ มัฟเฟย์ (Peter Maffay), อูโด ลินเดนเบิร์ก (Udo Lindenberg) และ จอร์จ แฮคเคิล (Georg Hackl) ซึ่งในปี 2023 ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ได้ทำลายสถิติจำนวนผู้เข้าชมสูงสุด จากเดิมในปี 2552 ซึ่งเป็นปีที่เปิดทำการที่ได้ต้อนรับแขกมากถึง 511,513 คน ในขณะที่ในปี 2566 มีจำนวนแขกเข้าเยี่ยมชมเพิ่มขึ้นถึง 535,613 คน
อาคิม สเตจสคาล (Achim Stejskal) ผู้บริหารปอร์เช่ เฮอริเทจและพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ กล่าวว่า “เราอยากจะขอบคุณแฟนๆ และผู้ที่ความสนใจทุกๆ คน ที่ทำให้ให้ปีที่แล้วเป็นปีที่พิเศษสำหรับเรา และเนื่องด้วยวาระครบรอบ 75 ปีของแบรนด์ปอร์เช่ (Porsche Sports Cars) ทำให้มีจำนวนผู้เข้าชมใน ซุฟเฟนเฮาเซ่น (Zuffenhausen) สูงกว่าปีก่อนถึง 54 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงในส่วนขององค์ประกอบเทคนิคต่างๆ และการนำเสนอที่ล้ำสมัย ที่เรามี ส่งผลให้การได้เข้ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นสำหรับแขกทุกวัยอีกด้วย จากความร่วมมือของเขาและทีมงาน ที่ช่วยกันถ่ายทอดความหลงใหลในประสิทธิภาพและการออกแบบของแบรนด์ ประกอบกับเรื่องราวต่างๆ ในอดีตจนไปถึงเส้นทางแห่งการเดินทางสู่อนาคต พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่จัดแสดงรถประวัติศาสตร์และบันทึกประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ให้ความสำคัญทางวัฒนธรรมและมรดกของแบรนด์ ที่ถ่ายทอดผ่านนิทรรศการพิเศษในรูปแบบต่างๆ อยู่เป็นประจำ วาระแห่งการ ครบรอบ 15 ปีของพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ ยังถือเป็นการแสดงความเคารพต่อประวัติศาสตร์ นวัตกรรม และความหลงใหลต่อแบรนด์ พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของการอนุรักษ์คุณค่าที่ระลึกถึงเรื่องราวในอดีต และมุ่งเสริมสร้างจิตวิญญาณของแบรนด์เพื่อคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือการกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่จะยังคงถูกเขียนต่อไปในอนาคต”
ข้อความแสดงความยินดีจาก วอลเตอร์ เรอห์ล (Walter Röhrl) แชมป์แรลลี่ระดับโลก 2 สมัย และแบรนด์แอมบาสเดอร์ของปอร์เช่ (Porsche)
“ผมขอแสดงความยินดีกับพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่เนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิดปีที่ 15 ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่โปรดของผม เพราะเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพบปะผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเหล่าบรรดาแฟนๆ ที่หลงรักใน แบรนด์ รวมไปถึงเพื่อนฝูงและอดีตเพื่อนร่วมงานนักแข่งรถ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่รวบรวมนิทรรศการต่างๆ ที่ถือเป็นการรวมตัวกันอีกครั้งของรถแข่งหลายคันที่ผมเคยลิ้มรสความสำเร็จ อย่างรถซูเปอร์สปอร์ต 3 คันอย่าง 959, คาร์เรร่า จีที (Carrera GT) และ 918 ที่ผมได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาก็ได้รับการจัดแสดงอยู่ที่นี่เป็นประจำ นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษจริงๆ คือ วันนี้ผมยังคงได้รับโอกาสขับรถเหล่านี้ให้กับปอร์เช่ตามงานต่างๆ ทีมงานปอร์เช่ เฮอริเทจและพิพิธภัณฑ์ (Porsche Heritage and Museum) ไม่เพียงแต่รักษาประวัติศาสตร์ของปอร์เช่ได้อย่างงดงามเท่านั้น แต่ยังสามารถสืบสานไปสู่อนาคตได้อีกด้วย”
แผนงานในปี 2024
ปี 2024 จะเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของ 911 เทอร์โบ (911 Turbo) โดยกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เราได้นำเสนอ 911 เทอร์โบ รุ่นแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยีการแข่งรถ รถคันนี้ถือเป็นการเปิดศักราชของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ในวันที่ 30 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ พิพิธภัณฑ์จะเปิดนิทรรศการพิเศษเพื่อเฉลิมฉลอง "50 ปีแห่งเทอร์โบ" และจะสนับสนุนนิทรรศการเทอร์โบ (Turbo) ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลกต่อไป นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 ถึง 28 เมษายน 2024 ทีมปอร์เช่ เฮอริเทจและพิพิธภัณฑ์ จะทำการเสนอนิทรรศการพิเศษของเทอร์โบ (Turbo) ภายในงาน "Retro Classics" ที่รวบรวมแฟนๆ รถโบราณและผู้ชื่นชอบรถสปอร์ตจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันในเมืองสตุ๊ทการ์ท ส่วนงาน “Solitude Revival” ในวันที่ 22 และ 23 มิถุนายน 2024 จะเป็นงานที่ผู้เข้าชมจะได้เดินทางด้วยเครื่องยนต์ผ่านกาลเวลา พร้อมกับเลือกชมรถยนต์รุ่นประวัติศาสตร์จากคอลเลกชันของบริษัท นอกจากนี้จะมีการส่งรถยนต์บางรุ่นไปยังงานต่างๆ เช่น Festival of Speed ใน Goodwood และ Monterey Car Week แคลิฟอร์เนีย และในปีนี้ถือเป็นอีกครั้งที่เราจะจัดงานเวิร์กช็อปและกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน ที่ซุฟเฟนเฮาเซ่น (Zuffenhausen) รวมถึง "Social Media Ready" หรือการชุมนุมสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเพื่อให้ความรู้ใหม่ๆ และสำหรับการไขปริศนาต่างๆ ทั่วทั้งพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่
ข้อความแสดงความยินดีจาก มาร์คัส ไบรท์ ชเวิร์ต (Marcus Breitschwerdt) หัวหน้าฝ่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ คลาสสิค (Mercedes-Benz Classic):
“เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) ขอแสดงความยินดีกับพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ในโอกาสครบรอบ 15 ปี เราโชคดีมากที่มีพิพิธภัณฑ์รถยนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกถึง 2 แห่งในเมืองสตุ๊ทการ์ท (Stuttgart) พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่และพิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือเป็นสถานที่สำคัญที่มีเสน่ห์ระดับนานาชาติ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกทวีป เราทั้ง 2 แบรนด์ต่างมีจุดยืนร่วมกันในหลายๆ ครั้ง โดยตั้งแต่ปี 1923 ถึง 1928 ที่เฟอร์ดินานด์ ปอร์เช่ (Ferdinand Porsche) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของแบรนด์ได้ร่วมกับดาราดังระดับโลก และในปี 1948 ปอร์เช่เริ่มการผลิตรถสปอร์ตของตัวเองในเมืองสตุ๊ทการ์ท (Stuttgart) รวมถึงความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 บริษัทที่ดำเนินต่อเนื่องมา เช่น Mercedes-Benz 500 E ในตำนาน ที่ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างเรากับปอร์เช่”
ข้อความแสดงความยินดีจากเบตติน่า เฮาสมานน์ (Bettina Haussmann) หัวหน้าพิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดส-เบนซ์:
“พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่และพิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตั้งอยู่ในเมืองเดียวกัน และต่างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดแก่ผู้มาเยือน และทั้ง 2 สถานที่นี้ ยังคงรักษาความร่วมมือที่ดีต่อกัน รวมถึงการร่วมกันจัดงานแสดงรถยนต์ มาตั้งแต่ปี 2016 เรามีตั๋วบัตรคอมโบที่มอบส่วนลดค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์อีกแห่งแก่ผู้ถือบัตร ในปี 2023 ยังมีการจัดงานพบปะระหว่างแบรนด์ 'Classics & Coffee' โดยมีรถยนต์คลาสสิกที่มารวมตัวกันเฉลิมฉลองให้กับ '75 ปีแห่งปอร์เช่' นอกจากนี้เรายังมีความยินดีที่ได้ต้อนรับ Tina Turbo และ Tom Targa มาสคอตตัวน้อยของพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ ที่มาเยี่ยมเยียนเราอยู่เสมอ”
นิทรรศการพิเศษและความร่วมมือทั่วโลก
นับตั้งแต่เปิดทำการในปี 2009 พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่มักจะมีการจัดนิทรรศการพิเศษถึง 2 ครั้งต่อปี ไอริส เฮเกอร์ (Iris Haker) ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ กล่าวว่า “เรามุ่งเน้นไปที่เรื่องราวตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน จนถึงอนาคต ตลอดจนเรื่องราวของผู้คนที่น่าสนใจและเทคโนโลยีล้ำสมัย จากการครบรอบ 75 ปีของปอร์เช่ (Porsche Sports Cars) ในปีที่แล้ว เราได้ปรับโครงสร้างนิทรรศการใหม่ทั้งหมด และสร้างสรรการจัดแสดงผ่านธีมที่หลากหลาย แนวคิดของเราชัดเจนแต่ก็มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับนิทรรศการพิเศษ นอกจากนี้เรายังทำงานร่วมกับพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงพิพิธภัณฑ์ยานยนต์ปีเตอร์เสน (Petersen Automotive Museum) ในลอสแอนเจลิส และพิพิธภัณฑ์กรอสส์กลอคเนอร์ โฮชาลเพนสตราสเซอ (Grossglockner Hochalpenstrasse) ซึ่งเป็นนิทรรศการยานยนต์บนถนนที่มีทัศนียภาพงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก”
ข้อความแสดงความยินดีจากติโม เบิร์นฮาร์ด (Timo Bernhard) ผู้ชนะการแข่งขันเลอมังส์ (Le Mans) และแบรนด์แอมบาสเดอร์ของปอร์เช่ (Porsche)
“สำหรับผม พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่เป็นสถานที่ที่พิเศษและศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยประเพณี ความหลงใหล และจิตวิญญาณของปอร์เช่ที่จับต้องได้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการของบริษัทด้วย ผมได้เข้าร่วมพิธีเปิดและติดตามกิจกรรมทั้งหมดของพิพิธภัณฑ์ด้วยความสนใจมาโดยตลอด ผมดีใจที่ได้มีบทบาทในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทำให้สามารถมีส่วนร่วมในการเผยแพร่คุณค่าแห่งมรดกของแบรนด์ไปทั่วโลกมาหลายปี และได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ผมชอบไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เพราะจะได้เจอรถแข่งหลายคันในนิทรรศการ และเมื่อเร็วๆ นี้ Team75 Bernhard ของผมได้รับเกียรติในการส่งต่อรถยนต์ที่ชนะ DTM คันแรกให้กับทีมงานพิพิธภัณฑ์ ผมขอให้พิพิธภัณฑ์และทีมงานทุกคนมีช่วงเวลาที่ดีและวิเศษยิ่งๆ ขึ้นไป”
โปรแกรมการเยี่ยมชมถูกปรับให้เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
“ไรมันด์ ไฮนิช (Reimund Heinisch) หัวหน้าฝ่ายบริการนักท่องเที่ยวและนิทรรศการ (Head of Visitor Service and Exhibitions) อธิบายว่า “ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ทีมงานพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ได้เปิดตัวโปรแกรมใหม่ๆ และพัฒนาโปรแกรมที่มีอยู่เป็นประจำ เช่น ผู้ใหญ่สามารถเข้าร่วมเวิร์คช็อปถ่ายภาพในพื้นที่ Porsche 4Experts และทัวร์พร้อมไกด์เพื่อสัมผัสประสบการณ์เบื้องหลัง ส่วน Porsche 4Kids และ Porsche 4School จะนำเสนอกิจกรรมต่างๆ สำหรับเด็กและเยาวชน รวมถึงการทัวร์ชมพิพิธภัณฑ์และโรงงานสำหรับเด็ก โดยสถานี Discovery ในโซนนิทรรศการ หรือกิจกรรม Teamspirits นอกห้องเรียน ถือเป็นโปรแกรมวันหยุดที่จะช่วยขจัดความเบื่อหน่าย และสำหรับ “Social Media Ready” เป็นโปรแกรมเสริมอันใหม่ ที่เชิญชวนเยาวชนอายุระหว่าง 15 ถึง 19 ปี ให้มาร่วมสร้างสรรค์สิ่งพิเศษจากภาพถ่ายและวิดีโอบนสมาร์ทโฟน เพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นรายการโชว์ระดับมืออาชีพ (showreels) ซึ่งในปีนี้ เราต้องการกระชับความร่วมมือกับศูนย์ฝึกอบรมงานของปอร์เช่ให้มากขึ้น เป้าหมายคือ การสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไปด้วยประวัติศาสตร์ของผู้ผลิตรถสปอร์ต”
เอกสารสำคัญของปอร์เช่ เปรียบเสมือนความทรงจำของบริษัท
เอกสารสำคัญของปอร์เช่ เปรียบเสมือนความทรงจำของบริษัท เป็นแหล่งรวมข้อมูลอันล้ำค่า เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เทคโนโลยี สังคม และวัฒนธรรมของปอร์เช่ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการขยายความรู้เกี่ยวกับแบรนด์ในการประชาสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ และเพื่อรักษาเรื่องราวกับแฟนๆ ของปอร์เช่ทั่วโลก ฟรังค์ จุง (Frank Jung) ผู้บริหารและพนักงานที่ Porsche Archive ทำหน้าที่ประมวลผลคำถามมากกว่า 6,000 ข้อต่อปี จากทั้งภายในองค์กร สื่อมวลชน นักวิทยาศาสตร์ ผู้มีอิทธิพล และนักเขียนหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนา มอเตอร์สปอร์ต และประวัติของบริษัท ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา มีการส่งคำถามถึงทีมงานมากกว่า 90,000 รายการ โดยเขาได้ให้ความเห็นว่า “เราไม่เพียงแต่เป็นผู้รักษาและผู้บริหารความรู้และนวัตกรรมอันทรงคุณค่าจากอดีตเท่านั้น แต่เรายังจับตามองไปถึงอนาคตอีกด้วย เนื่องจากนวัตกรรมของวันนี้จะกลายเป็นประเพณีของวันพรุ่งนี้” เขาและทีมงานกำลังรักษาบันทึกที่ครอบคลุมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของบริษัทสำหรับคนรุ่นหลัง และสนับสนุนเพื่อนร่วมงานในพิพิธภัณฑ์ด้วยนิทรรศการพิเศษ หรือเนื้อหาของโซนนิทรรศการ และเตรียมข้อมูลให้กับผู้ที่ต้องนำเสนอคอลเลกชันรถยนต์สู่บุคคลภายนอก ส่วนฝ่ายกฎหมายยังเข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์โดยอาศัยความรู้และเอกสารในคลังอีกด้วย
ข้อความแสดงความยินดีจาก ฮานส์ โจอาคิม สตั๊ค (Hans-Joachim Stuck) อดีตนักแข่งรถ
“ขอแสดงความยินดีกับพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่อันเป็นที่รักของผม! การมาเยือนแต่ละครั้งไม่เพียงแต่นำความทรงจำดีๆ กลับมาเท่านั้น ผมยังตื้นตันทุกครั้งที่เห็นผู้มาเยี่ยมชมและแฟนๆ คุ้นเคยกับเรื่องราวความสำเร็จของปอร์เช่ ผมดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น Sound Night ในตำนาน หรือการได้นั่งหลังพวงมาลัยเมื่อทีมส่งรถคลาสสิกไปแข่งขันแรลลี่และกิจกรรมต่างๆ ทั่วโลก”
คอลเลคชันรถยนต์: พิพิธภัณฑ์นำมาจัดแสดงในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์
เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ได้ขยายคอลเลกชั่นจัดแสดงรถยนต์ครอบคลุมประวัติศาสตร์รถยนต์ทุกรุ่นตั้งแต่ปี 1898 จนถึงปัจจุบัน ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา รถยนต์กว่า 800 คันได้เดินทางไปจัดแสดงในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยปอร์เช่ เฮอริเทจและพิพิธภัณฑ์ (Porsche Heritage and Museum) ได้สนับสนุนกิจกรรมและงานแสดงสินค้ามากกว่า 3,300 รายการ
อเล็กซานเดอร์ อี. ไคลน์ (Alexander E. Klein) ผู้บริหารฝ่ายคอลเลกชันรถยนต์และแนวคิดมรดกของปอร์เช่ (Head of the Car Collection and Heritage Concepts) กล่าวว่า “รถยนต์ในคอลเลกชันของเราถือเป็นสักขีพยานความร่วมสมัยที่บอกเล่าเรื่องราวของเรา สิ่งเหล่านี้ถือเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ต้องได้รับการปกป้อง และอนุรักษ์ไว้ นอกเหนือจากการเฉลิมฉลองให้กับปอร์เช่ 911 (901) หมายเลข 57 ที่ถูกค้นพบโดยทีมงานจากรายการทีวี “Der Trödeltrupp” (“The Jumble Gang”) คอลเลกชั่นจัดแสดงนี้ยังมีโมเดลรุ่นปัจจุบันที่ช่วยเติมเต็มภาพลักษณ์แห่งอนาคตของรถยนต์รุ่นนี้อีกด้วย และเราให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ของผู้คน และเน้นที่จะบอกเล่าเกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกของเราอย่างจริงจัง การได้พบปะผู้คนที่ถ่ายทอดความรู้และประเพณี ทำให้เราได้เรียนรู้และสำหรับการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่เป็นไปตามจุดประสงค์แรกเริ่ม นั่นคือการแสดงรถและเพื่อนำผลงานทางประวัติศาสตร์ออกมาสู่สายตาชาวโลก และนี่ถือเป็นแนวคิดของงานกิจกรรม Heritage Experience ใหม่ ที่ได้นำไปใช้แล้วในประเทศจีน ฮาวาย และประเทศเยอรมนี ”
ข้อความแสดงความยินดีจาก แองเจลีค เคอร์เบอร์ (Angelique Kerber) ผู้ชนะวิมเบิลดัน และแบรนด์แอมบาสเดอร์ของปอร์เช่ (Porsche)
“ฉันผูกผันกับพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ จากประสบการณ์ต่างๆ และด้วยความรู้สึกมากมาย ฉันไม่มีทางลืมบรรยากาศงานแถลงข่าวครั้งแรกในฐานะผู้ชนะวิมเบิลดัน ณ ประเทศเยอรมนี ซึ่งจัดขึ้นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ฉันยังได้ถ่ายภาพและถ่ายภาพยนตร์ท่ามกลางรถคลาสสิกอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหล่านี้มาหลายครั้ง รวมถึงได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์และประวัติศาสตร์ของปอร์เช่อย่างใกล้ชิด เป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง! ฉันโชคดีมากที่ไม่เพียงแต่ได้พบกับบรรดารถคลาสสิกจากคอลเลคชันรถยนต์ของพิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังมีโอกาสได้รับสิทธิพิเศษในการขับรถบางคันด้วยตัวเอง อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ฉันก็มีโอกาสได้ขับในระหว่างการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของรถสปอร์ตปอร์เช่ในปี 2023 สำหรับฉัน นี่คือ "การขับเคลื่อนด้วยความฝัน (Driven by Dreams)" อย่างแท้จริง สุขสันต์วันเกิดครบรอบ 15 ปี พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ที่รัก! ฉันรอคอยที่จะได้กลับมาเยือนที่แห่งนี้อีกครั้ง”
พิพิธภัณฑ์รถปอร์เช่ คือสถานที่จัดงานกิจกรรมมากมาย
ฟิลิป ชุมม์ (Philipp Schumm) ผู้บริหารฝ่ายการสื่อสารและกิจกรรมพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ (Head of Communication and Events) กล่าวว่า “สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์ของผู้เชียวชาญในการผลิตรถสปอร์ต สามารถจองเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ หรือจัดกิจกรรมที่พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่แห่งนี้ได้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมที่พิเศษมาก ไม่เพียงแต่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามน่าประทับใจ กิจกรรมที่จัดขึ้นของเราจะทำให้แขกผู้มาเยือนได้รับประสบการณ์ปอร์เช่ที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม นอกจากนี้ทีมงานของเรายังมีจัดกิจกรรมต่างๆ ของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น งาน Porsche Sound Night กิจกรรมในโรงภาพยนตร์ Porsche 4Kids กับ Checker Tobi หรือการถ่ายทอดสด 24 Hours of Le Mans”
ประวัติศาสตร์ที่สามารถนำกลับได้ จากร้านค้าของพิพิธภัณฑ์
ร้านค้าพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่เชิญชวนให้ผู้มาเยี่ยมชมเลือกซื้อและค้นพบความเป็นปอร์เช่ ไม่ว่าคุณกำลังมองหาของที่ระลึกสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ เลือกซื้อเสื้อผ้าหรือสินค้าจากคอลเลกชั่นปอร์เช่ ไลฟ์สไตล์ (Porsche Lifestyle) หรือสินค้ารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นพิเศษสำหรับนักสะสม ร้านค้าในพิพิธภัณฑ์มีสินค้ามากมายให้กับลูกค้าและแฟนๆ ได้เลือกชม นอกจากนี้คุณยังจะพบสิ่งพิมพ์มากมายที่เกี่ยวข้องกับประวัติความเป็นมาของแบรนด์ปอร์เช่ เช่น หนังสือในซีรีส์ “Edition Porsche Museum” ซึ่งถือเป็นวรรณกรรมชิ้นสำคัญของเรา เนื่องจากสำนักพิมพ์ของพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่เองก็กำลังฉลองครบรอบ 15 ปีในปีนี้เช่นกัน “นอกจากร้านค้าในพิพิธภัณฑ์แล้ว เรายังดูแลร้านค้าในโรงงานซุฟเฟนเฮาเซ่น (Zuffenhausen) และ ไวส์ซาค (Weissach) ตลอดจนดูแลลูกค้าธุรกิจของเราด้วย” อเล็กซานเดอร์ เค็ค (Alexander Keck) ผู้บริหารฝ่ายการจัดการทรัพยากรและร้านค้า (Head of Resource Management and Shops) กล่าวเสริม
ตัวเลขสถิติที่สำคัญจากพิพิธภัณฑ์รถปอร์เช่
08 กุมภาพันธ์ 2567
ผู้ชม 31 ครั้ง