นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและ ส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่าเมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ คปภ.ได้เห็นชอบให้ บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ควบเข้ากัน และเกิดเป็นบริษัทใหม่ คือ บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยการให้ความเห็นชอบ คณะกรรมการ คปภ. ได้กำหนดเงื่อนไขสำคัญ เพื่อให้การดำเนินการควบรวมบริษัทเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสอดคล้องกับข้อกฎหมาย อาทิ การดำเนินการตามรายละเอียดโครงการของบริษัทจะต้องไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการเสื่อมสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยที่ได้รับตามสัญญาประกันภัย และให้บริษัทประกาศต่อสาธารณชนให้ทราบถึงการควบกันของบริษัทให้ครอบคลุมและเพียงพอ ต่อมาบริษัททั้งสองรายได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและจดทะเบียนควบบริษัทเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 พร้อมทั้งได้นำส่งคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยฉบับเดิมของทั้งสองบริษัท และรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจฯ ฉบับใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว

 

 

ในการนี้ เลขาธิการ คปภ. ได้มอบนโยบายและกำชับให้บริษัทดำเนินการตามแผนงานโครงการของบริษัทอย่างเคร่งครัด โดยเน้นย้ำถึงการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย การนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีการประกันภัย เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของบริษัทและอุตสาหกรรมประกันภัยในอนาคต ซึ่งคาดว่าจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะช่วยส่งเสริมให้การประกันภัยของไทยมีความเติบโตได้มากยิ่งขึ้น

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่าสำนักงาน คปภ. โดยคณะกรรมการ คปภ. มีนโยบายในการส่งเสริมให้เกิด Consolidation ในภาคธุรกิจประกันวินาศภัย โดยมุ่งไปที่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทประกันภัย ซึ่งในปี 2566 นี้ มีบริษัทประกันวินาศภัยที่ควบเข้ากันและโอนกิจการรวมทั้งสิ้น จำนวน 6 แห่ง หรือเรียกง่าย ๆ ว่ามีการ synergy รวมจำนวน 3 คู่ และสำนักงาน คปภ. มีนโยบายในการส่งเสริม Consolidation อย่างต่อเนื่อง

 

 

ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำร่างประกาศสำนักงาน คปภ. เรื่อง แนวปฏิบัติในการขอรับความเห็นชอบการโอนหรือรับโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วน หรือการควบกันของบริษัทประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย เพื่อให้ธุรกิจประกันภัยมีแนวทางในส่วนของการควบรวมและการโอนกิจการที่ชัดเจนมากขึ้น โดยคาดว่าหากมีแนวทางออกมา ก็จะง่ายมากขึ้นสำหรับบริษัทประกันภัยที่จะ Consolidation หรือ M&A ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกันกับธุรกิจประกันภัยทั่วโลก

 

 

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ยังอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง ต่อร่างกฎกระทรวงกำหนดเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจประกันชีวิตและการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย พ.ศ. … เพื่อเป็นการกำหนดเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจประกันภัยของทุกบริษัท ที่ในปัจจุบันนั้นมีความแตกต่างหลากหลายตามระยะเวลาจัดตั้งบริษัท ดังนั้น เพื่อส่งเสริมให้บริษัทในอุตสาหกรรมประกันภัย มีสภาพแวดล้อมที่สามารถแข่งขันกันได้อย่างเท่าเทียมและเกิดความเป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจ สำนักงาน คปภ. จึงได้ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ขึ้นมา เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักงาน คปภ. ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยไทย และมุ่งหวังให้บริษัทประกันภัยเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อร่วมกันสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต