ประสบความสำเร็จ และปิดฉากสุดความประทับใจกับงานประเพณีอันดีงามที่ตอกย้ำการบอกเล่าความเป็นไทย ไปทั่วโลกท่ามกลางความชื่นมื่นของทุกภาคส่วนกับงาน “Water Festival 2023 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย” ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวร่วมงานคึกคักทุกพื้นทั้ง 4 ภาค ใน 6 จังหวัดของประเทศไทย ภาคกลาง จัดที่กรุงเทพมหานครใน 11 ท่าน้ำวิถีไทย ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, ท่ามหาราช, เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น , ท่ายอดพิมาน, ท่าสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม และ ท่าศาลเจ้ากวนอู คลองสาน รวมไปถึง ภาคเหนือ จัดที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน ภาคใต้ จัดที่ จ.ภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ จ.อุดรธานี และ จ.ขอนแก่น ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 เมษายนที่ผ่านมา
เรียกว่าเป็นเทศกาลสงกรานต์ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวอย่าง เต็มรูปแบบ หลังชะลอตัวไปเกือบสามปีด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 จากกระแสโซเชียลและบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติที่หลังไหลเดินทางมาเที่ยวชมงานพื้นที่ต่างๆ อย่างคึกคักทุกพื้นที่ที่จัดงาน ที่นอกจากจะร่วมกันสนุกอย่างดีงามก้าวข้ามปีใหม่ไทย กับวิถีความเป็นไทยด้วยความ “ชื่นอุรา น่าสบาย” แล้ว ยังสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้อย่างยั่งยืน ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ได้เป็นอย่างมาก
รัฐ เอกชน หนุนการท่องเที่ยววิถีไทยแบบยั่งยืน ยึดหลัก บ.ว.ร ยกกำลังสอง
ความสำเร็จของการจัดงานครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการผสานความร่วมมือขับเคลื่อนการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันในทุกมิติจากหลายภาคส่วน โดยมี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นหัวเรือใหญ่และผู้สนับสนุนหลัก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร เครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชน และชุมชนแต่ละท้องถิ่น ที่ทำงานแบบบูรณาการร่วมกันกับพันธมิตรในพื้นที่ภายใต้หลักการของ บ.ว.ร ยกกำลังสอง ได้แก่ บ้าน วัด โรงเรียน โดยการสนับสนุนของภาคส่วนภายนอก ร่วมกับ บริษัท วิสาหกิจเพื่อสังคม และราชการ มาทำงานร่วมกับอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจสู่ชุมชนจากส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่มุ่งผลสัมฤทธิ์เพื่อความยั่งยืน ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สะท้อนได้จากการขยายผลการจัดงานสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ครอบคลุมพื้นที่หลากหลายวัฒนธรรมทั่วไทย ใน 6 จังหวัด 4 ภูมิภาคในประเทศไทย โดยในปี 2565 ที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนในช่วงการจัดงานรวม 6 จังหวัดทั่วประเทศ มีรายได้กว่า 2.22 ล้านบาท และในปี 2566 สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่มากกว่า 3 ล้านบาท
เตรียมยกระดับ Water Festival สู่แพลตฟอร์มความร่วมมือ ที่จะสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ
การจัดงานในปีนี้ ได้ร่วมสร้างประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ สู่การยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งในทุกมิติ อาทิ สร้างการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเก็บกลับรีไซเคิล (Environment) การสืบสานศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม (Social) การเชื่อมโยงต่อยอดเครือข่ายแห่งความยั่งยืนให้กับชุมชนด้วยการทำงานร่วมกันแบบ บ.ว.ร. ยกกำลังสอง" บ้าน วัด โรงเรียน บริษัท วิสาหกิจเพื่อสังคม รัฐ/ราชการ (Governance) ที่พร้อมสู่การขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโก เพื่อให้ “ประเพณีสงกรานต์” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมชิ้นที่ 4 ของประเทศไทย เพื่อ “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก”
นอกจากนี้ ไทยเบฟ ยังได้วางแนวทางเพื่อเตรียมยกระดับงาน Water Festival สู่แพลตฟอร์มความร่วมมือที่จะรวบรวมและแบ่งปันองค์ความรู้ ยกระดับสินค้าชุมชน เพิ่มขีดความสามารถที่สร้างประโยชน์เพื่อชุมชนโดยการจัดการของชุมชน เพื่อสร้างความยั่งยืนใน 4 มิติ ได้แก่ ศิลปวัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น ด้วยการเตรียมจัดตั้ง บริษัท สายน้ำแห่งวัฒนธรรม จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นหน่วยงานที่ขับเคลื่อนและผลักดันสู่การจัดตั้ง วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) เพื่อร่วมสนับสนุนและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน ในขีดความสามารถในด้านเศรษฐกิจชุมชน รวมถึงสร้างโอกาสต่อยอดมูลค่าเพิ่มของดีในชุมชนที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น รวมถึงต่อยอดโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะให้กับเยาวชนในชุมชน โดยมุ่งหวังให้ บริษัท สายน้ำแห่งวัฒนธรรม จำกัด นี้จะช่วยสร้างผลลัพธ์เป็นรูปธรรมได้อย่างยั่งยืน
จ.เชียงใหม่ จัดเต็มวัฒนธรรมร่วมสมัย วิถีความเป็นไทยครบถ้วน
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “งาน Chiangmai Water Festival 2023 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย เป็นการผสานความร่วมมือครั้งสำคัญหลายภาคส่วน โดยเฉพาะการจัดงานภาคเอกชนอย่าง ไทยเบฟ ที่ร่วมกันขับเคลื่อนการจัดงานให้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และเป็นอีกหนึ่งงานที่ถูกบันทึกไว้ในปฏิทินการท่องเที่ยวของประเทศไทย และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันน่ามาเยือนที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก ที่ผ่านมาทั่วโลกและประเทศไทย ต้องเจอกับสถานการณ์วิกฤติของโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดความตึงเครียดจากผลกระทบที่ตามมา ขณะนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์ได้บรรเทาเบาบางลงไป ทำให้ได้มีโอกาสร่วมในกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ดีงาม ให้ได้ “ชื่นอุรา” และเริ่มจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น อย่าง “น่าสบาย” ต่อไป โดยรูปแบบการจัดงานทั้งหมดยังคงตอกย้ำแนวคิดเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีไทย ที่ยังคงจัดเต็มประเพณีอันดีงามของเทศกาลวัฒนธรรมร่วมสมัยและวิถีความเป็นไทยไว้ได้อย่างครบถ้วน”
จ.ขอนแก่น ยกระดับ ส่งเสริมการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ สู่ “วัฒนธรรมกินได้”
นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า “บ้านสาวะถี เป็นหมู่บ้านที่มีวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมสืบต่อกันมายาวนาน มีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น จึงเป็นโอกาสดีอย่างยิ่ง ที่ทุกภาคส่วนจะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสาน อนุรักษ์และยกระดับงานประเพณีวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ วัฒนธรรม เพื่อสร้างคุณค่าทางสังคม และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ "วัฒนธรรมกินได้" สร้างรายได้ให้กับชุมชน ผ่านการจัดกิจกรรม ในครั้งนี้ ขอกราบขอบคุณพระครูบุญชยากร เจ้าอาวาสวัดไชยศรี เป็นอย่างสูง ที่ให้การสนับสนุนการจัดงานเป็นอย่างดียิ่ง ขอบคุณ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และชุมชนคุณธรรมวัดไชยศรี และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันสนับสนุนการจัดงาน และช่วยกันจรรโลงวัฒนธรรมที่ดีงาม แบบดั้งเดิมให้คงอยู่สืบไป”
บ้านเชียง คึกคักสร้างสรรค์กิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดปี
พันตรี สุเมธ คำพิมาน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเชียง กล่าวว่า “ในปีนี้การจัดงานสงกรานต์ของบ้านเชียงกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากว่างเว้นไป 2 ปีเนื่องจากโควิด -19 อีกทั้งทางเทศบาลก็ได้รับความร่วมมือจากไทยเบฟ มาร่วมการจัดกิจกรรมมากมาย ทำให้การสงกรานต์ที่เกิดขึ้นได้อย่างดี แม้มีเวลาเตรียมการไม่นาน แต่ภาพรวมก็ออกมาดีอย่างมาก ทางชาวบ้านรวมทั้งลูกหลานที่กลับมาเยี่ยมเยือนญาติผู้ใหญ่ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี สุดท้ายนี้ก็ขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่บ้านเชียงกันเยอะๆ ไม่เพียงแค่งานสงกรานต์ แต่ยังมีกิจกรรมและเทศกาลงานอื่นๆอีกมากมายตลอดปี อยากให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาสัมผัสวัฒนธรรมประเพณีต่างๆของชาวบ้านเชียงกันเยอะๆครับ”
ชุมชนกะดีจีน ขยายโอกาสเพิ่มรายได้ “ขนมฝรั่งกุฎีจีน”
คุณปิ่นทอง วงษ์สกุล ประธานชุมชนกุฎีจีน เปิดเผยว่า “ชุมชนกะดีจีน เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของชุมชนแห่งนี้ แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและเรื่องราวอันน่าสนใจมากมาย ซึ่งตั้งแต่เริ่มมีการจัดงาน Water Festival 2023 เทศกาลวิถีน้ำ...วิถีไทย ขนมฝรั่งกุฎีจีน ซึ่งเป็นขนมประจำของชุมชน ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นจากกิจกรรมต่างๆของงาน นักท่องเที่ยวลงพื้นที่สัมผัสวิถีชุมชนและขั้นตอนการทำขนม และนำสินค้าชุมชนของเราไปเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ณ ตอนนี้มี 3 บ้านที่ทำขนมฝรั่งกุฎีจีน ได้แก่ บ้านธนูสิงห์ หลานแม่เป้า หลานย่าเป้า ทำให้เริ่มมีคนสนใจมีออเดอร์ขนมเพิ่มขึ้น ยอดการสั่งเพิ่มขึ้น รายได้เพื่มมากขึ้นทุกปี เรียกว่าเป็นการเปิดโอกาสและให้พื้นที่กับชุมชนได้ค้าขาย ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืนค่ะ”
เยาวชนเจ้าบ้าน ความภาคภูมิใจ สืบสานอัตลักษณ์ท้องถิ่น
“น้องมิก- ด.ช.พงศ์พัฒน์ หมายสิน” อายุ 10 ขวบ โรงเรียนวัดมหรรณพาราม ในพระราชูปถัมภ์ ฯ พูดถึงความรู้สึกว่า “เข้าร่วมกิจกรรมเป็นปีแรก รู้จักโครงการนี้เพราะเพื่อนของคุณแม่ผมแนะนำ และตัวผมเองก็สนใจอยากสมัครอยู่แล้ว เพราะอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ส่วนตัวผมเป็นคนชอบเรื่องประวัติศาสตร์ไทยอยู่แล้วครับ และเป็นคนชอบพูด 2 วันนี้สนุกมากครับได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ และที่สำคัญผมได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หลายเรื่องที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ได้รู้ประวัติของวัดประยูรฯ มากขึ้นเพราะผมประจำจุดที่วัดนี้ อยากให้มีการจัดงานดีๆ แบบนี้ในทุกๆ ปีต่อไป จะได้ช่วยกันสืบสานความดีงาม ให้ทุกคนได้รู้ และยังช่วยให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยครับ”
“น้องขนุน-ด.ญ.พุฒิพร สมสมัย” อายุ 14 ปี โรงเรียนสายปัญญา ในพระราชูปถัมภ์ ฯ เล่าว่า “รู้สึกดีใจและสนุกมากค่ะที่ได้มาเจอเพื่อนๆ อีกครั้ง หนูร่วมกิจกรรมเป็นปีที่ 4 แล้วค่ะหนูชื่นชอบโครงการนี้มากค่ะเพราะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และหนูได้ฝึกทักษะการพูดนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ และได้ใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมให้เป็นประโยชน์ด้วยค่ะ”
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่ง Big Event แห่งปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาสำหรับงาน “Water Festival 2023 เทศกาลวิถีน้ำ..วิถีไทย” ที่นอกจากจะเป็นการสืบสานประเพณีดีงาม และอัตลักษณ์ท้องถิ่นอันทรงคุณค่าในมิติต่างๆ แล้ว ยังเป็นการผสานความร่วมมือคครั้งสำคัญที่ร่วมกันมาอย่างเหนียวแน่นตลอด 8 ปี ระหว่างภาครัฐ เอกชน พันธมิตรชุมชนทุกพื้นที่ที่ร่วมกันหนุนนโยบายภาครัฐสู่การท่องเที่ยววิถีไทยแบบยั่งยืนต่อไป พบกันใหม่ปีหน้า
18 เมษายน 2566
ผู้ชม 165 ครั้ง