กรุงเทพฯ 22 กุมภาพันธ์ 2565 – ไบร์ทลิ่ง (Breitling) และ ไทรอัมพ์ (Triumph) ประกาศการร่วมมือครั้งสำคัญที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นด้วยการนำรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ระดับชั้นนำ รุ่นสปีด ทวิน (Speed Twin) และ นาฬิกาไบร์ทลิ่งรุ่นท็อป ไทม์ (Top Time) อันโดดเด่น มาสร้างสรรค์เป็นรถจักรยานยนต์และนาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน สำหรับปี 2022 ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์จะได้รับการออกแบบให้เต็มไปด้วยความพรีเมียมและเอกลักษณ์ที่สวยงามเฉพาะตัว
โดยทั้งสองแบรนด์นับเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งในด้านความแม่นยำ คุณภาพ และสไตล์ ตลอดจนทั้งสองแบรนด์ต่างก็เป็นผู้สร้างนวัตกรรมอันโดดเด่นในแบบฉบับของตนเอง โดยไบร์ทลิ่ง (Breitling) เป็นแบรนด์ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานาฬิกาโครโนกราฟสมัยใหม่ ซึ่งผสมผสานกันได้อย่างลงตัวกับไทรอัมพ์ (Triumph) แบรนด์ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างวิวัฒนาการของรถจักรยานยนต์อย่างไม่หยุดนิ่ง
ด้วยมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ และความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม สมรรถนะและความงามของทั้งสองแบรนด์ การร่วมมือครั้งใหม่นี้จึงเผยให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายร่วมกันของไบร์ทลิ่ง (Breitling) และ ไทรอัมพ์ (Triumph) ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความสมบูรณ์แบบของการเคลื่อนไหว เพื่อให้สอดรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โดย Triumph Breitling อิดิชัน รุ่นพิเศษนี้เกิดขึ้นจากปรัชญาที่มีร่วมกันของทั้งสองแบรนด์ ในการนำคุณลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งสไตล์ดั้งเดิม และพรสวรรค์ในการสร้างงานฝีมือที่ประณีต มาบรรจบกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน
(TRIUMPH SPEED TWIN BREITLING LIMITED EDITION)
ความงดงาม
· การผสมผสานระหว่างสีโพลีโครมาติกบลู (Polychromatic Blue) อันมีสไตล์และโดดเด่นของไบร์ทลิ่ง เข้ากับสีดั้งเดิมของไทรอัมพ์รุ่นธันเดอร์เบิร์ด (Triumph Thunderbird) ปี 1951ได้อย่างลงตัว
· รายละเอียดเส้นคาดตัวถัง (Coach Line) ที่วาดด้วยมือ
· คุณสมบัติและการตกแต่งระดับพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่:
- หน้าเรือนไมล์แบบสั่งทำพิเศษที่ออกแบบมาจากดีไซน์ของนาฬิกา
- เบาะหนังสีดำเจาะรูที่มีเอกลักษณ์ พร้อมเย็บตะเข็บ
- รายละเอียดเครื่องยนต์ที่กลึงขึ้นรูปแบบ Billet
ความพรีเมียม
· ระบบกันสะเทือนหลังใช้โช้คคู่สเปคสูงของ Öhlins แบบปรับได้ พร้อมสปริงสีดำเงาอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่นสปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง
· การอัพเกรดสเปคทั้งหมดเช่นเดียวกับ สปีด ทวิน (Speed Twin) โมเดลปี 2021 เจนเนอเรชั่นล่าสุด อาทิ พละกำลังและสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น เบรกสเปคสูงขึ้น ระบบบกันสะเทือนและยาง รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง อีกทั้งสไตล์และรายละเอียดที่สวยงามยิ่งขึ้น
ความพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
· จักรยานยนต์ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน มีจำนวนจำกัดเพียง 270 คัน ทั่วโลกเท่านั้น
· รถแต่ละจะคันมีหมายเลขกำกับที่ปะกับแฮนด์เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
· ใบรับรองพร้อมลายเซ็นของ มร.นิค บลอร์ (Nick Bloor) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ และ มร.จอร์จส เคิร์น (Georges Kern) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบร์ทลิ่ง
· โอกาสในการซื้อนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นพิเศษ ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ ลิมิเต็ด อิดิชัน (Breitling Top Time Triumph limited-edition) พร้อมหมายเลขกำกับที่สั่งทำพิเศษเพื่อให้ตรงกันกับหมายเลขลำดับของรถ
ธีมสีโพลีโครมาติกบลู (Polychromatic Blue) ที่มีเอกลักษณ์และสวยงาม
เพิ่มเสริมความงดงามของหน้าปัดนาฬิกาสีฟ้าและสีดำ ไบร์ทลิ่ง สปีด ทวิน รุ่นใหม่ ตัวรถจะถูกตกแต่งด้วยธีมสีโพลีโครมาติกบลูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ไทรอัมพ์ ธันเดอร์เบิร์ด 6ที (Triumph Thunderbird 6T) ซึ่ง มาร์ลอนแบรนโด (Marlon Brando) ทำให้ไทรอัมพ์รุ่นนี้กลายเป็นตำนานที่เป็นอมตะจากภาพยนตร์นักขี่ชื่อดังเรื่อง 'The Wild One’ ที่สร้างขึ้นในปี 1953
สำหรับการจับคู่สีทั้งสองนี้เป็นการจับคู่สีโดยใช้สเปกโตรกราฟจากสมุดตัวอย่างสีดั้งเดิมของไทรอัมพ์ที่อยู่ในโรงงานในปี 1950 โดยเลือกชิปสีดั้งเดิมของธันเดอร์เบิร์ดมาใช้ นอกจากนี้สีโพลีโครมาติกบลูยังเป็นสีที่ผสมขึ้นแบบคัสตอม และมีการลงสีด้วยมือ ซึ่งเป็นสีที่เข้ากับแถบสีเจ็ทแบล็กและคำว่า Breitling ที่อยู่บนตัวถัง อีกทั้งรถรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันนี้จะถูกเก็บรายละเอียดด้วยมืออย่างประณีต โดยฝีมือของ Gary Devine หัวหน้าทีมสีของไทรอัมพ์ ทั้งในบริเวณแผงด้านข้างและโคมไฟหน้าจะใช้สีเจ็ทแบล็ก (Jet Black)
สเปคระดับพรีเมียม
รถรุ่นพิเศษนี้มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหลังคู่แบบปรับได้ของ Öhlins พร้อมสปริงโช้คสีดำเงา และมีสเปคที่ได้รับการอัพเกรดทั้งหมดเช่นเดียวกับ สปีด ทวิน (Speed Twin) โมเดลปี 2021 เจนเนอเรชั่นล่าสุด อาทิ พละกำลังและสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น เบรกสเปคสูงขึ้น ช่วงล่างและยาง รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง สไตล์และรายละเอียดที่สวยงามยิ่งขึ้น
รายละเอียดเครื่องยนต์ที่ไม่เหมือนใคร
ไบร์ทลิ่ง สปีด ทวิน รุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน มาพร้อมคลัตช์อะลูมิเนียมที่กลึงขึ้นรูปแบบ Billet อัลเทอร์เนเตอร์ตกแต่งและชุบผิวอะโนไดซ์สีเข้ม ซึ่งถูกสั่งทำเฉพาะสำหรับรุ่นไบร์ทลิ่ง อิดิชัน นอกจากนี้ยังมีการใส่โลโก้ Breitling อย่างประณีตที่ทำให้รถรุ่นนี้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น
เบาะหนังพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
เบาะหนังสีดำเจาะรูพร้อมเย็บตะเข็บสีเทา เช่นเดียวกับสายนาฬิการุ่นไบร์ทลิ่ง อิดิชัน ที่มาพร้อมรายละเอียดลายนูนและการเย็บตะเข็บเดี่ยวสีดำ พร้อมปักตัวอักษร “B” ที่สื่อถึงแบรนด์ไบร์ทลิ่งอันหรูหราไว้ที่เบาะ
หน้าจอเรือนไมล์ ไบร์ทลิ่ง สปีด ทวิน ที่ถูกสั่งทำพิเศษ
หน้าปัดของรถจักรยานยนต์ลิมิเตด อิดิชัน รุ่นนี้ ได้ถูกพัฒนาร่วมกับไบร์ทลิ่ง ซึ่งถูกออกแบบให้เข้ากับหน้าปัดนาฬิกาไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ ที่มีสไตล์สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 270 คัน ทั่วโลก
ไบร์ทลิ่ง สปีด ทวิน อิดิชันจะผลิตอย่างจำกัดเพียงแค่ 270 คันทั่วโลก โดยแต่ละคันจะมีหมายเลขกำกับที่ปะกับแฮนด์และจะมาพร้อมกับใบรับรองที่มีลายเซ็นของ มร.นิค บลอร์ (Nick Bloor) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรอัมพ์
มอเตอร์ไซเคิลส์ และ มร.จอร์จส เคิร์น (Georges Kern) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบร์ทลิ่ง ซึ่งจำนวนรถ 270 คัน ถูกกำหนดตามองศาข้อเหวี่ยง 270 องศาของ เครื่องยนต์สูบคู่ สปีด ทวิน ที่ได้รับการยกย่อง นอกจากนี้ผู้เป็นเจ้าของ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน (Speed Twin Breitling Limited Edition) ทุกคนจะได้รับโอกาสพิเศษในการซื้อนาฬิกาโครโนกราฟรุ่น ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ (Breitling Top Time Triumph) พร้อมหมายเลขกำกับที่สั่งทำพิเศษเพื่อให้ตรงกับหมายเลขลำดับของรถ (เมื่อได้รับความต้องการของลูกค้าภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2022 จากเจ้าของคนแรก)
ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ โครโนกราฟ
(BREITLING TOP TIME TRIUMPH CHRONOGRAPHS)
Top Time Triumph Speed Twin Owners' Limited Edition
Top Time Triumph
ความงดงาม
· หน้าปัดสีไอซ์บลูที่สะดุดตานั้นเชื่อมโยงถึงทั้งสีโพลีโครมาติกบลูของสปีด ทวิน และ หน้าปัดสีน้ำเงินของ
ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ที่หายากนับจากปี 1970
ความพรีเมียม
· เป็นนาฬิการะบบโครโนกราฟที่มีความแม่นยำสูงสำหรับการดูเวลา การจับเวลา และการจับความเร็ว
โดยผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงในระดับสูงสุดตามมาตรฐานโครโนมิเตอร์ที่ได้รับการรับรองจาก COSC ซึ่งเป็นเครื่องหมายของความแม่นยำที่เหนือระดับ
ความเฉพาะตัว
· โครโนกราฟท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ ในสองเวอร์ชันที่แตกต่างกัน โดยจะมีรุ่นหนึ่งที่ถูกสงวนไว้เพื่อเจ้าของ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน ที่สามารถที่ระบุหมายเลขเฉพาะเพื่อให้ตรงกับหมายเลขลำดับของรถจักรยานยนต์
รายละเอียดและการออกแบบอย่างมีสไตล์
ในช่วงกลางทศวรรษ 1960 วิลลี่ ไบร์ทลิ่ง (Willy Breitling) ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมการแข่งรถและคาเฟ่เรซเซอร์ โดยเขาออกเดินทางเพื่อจับภาพการขับเคลื่อนด้วยความเร็วด้วยการจับเวลารูปแบบใหม่ ซึ่งได้ผลลัพธ์เป็นไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ (Breitling Top Time) ซึ่งเป็นโครโนกราฟที่ไม่เหมือนใคร ที่กลายเป็นนาฬิกาทางเลือกสำหรับผู้ชายและผู้หญิงสายสปอร์ตอย่างรวดเร็ว
ในวันนี้ จิตวิญญาณนั้นได้กลับมาในนาฬิกาโครโนกราฟ ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ ในสองเวอร์ชันที่แตกต่างกัน โดยเวอร์ชันแรกจะสงวนไว้สำหรับผู้ที่ซื้อ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน จะมีหน้าปัดแบบ Sunrey ที่เปล่งประกาย โดยเจ้าของ สปีด ทวิน รุ่นลิมิเต็ด อิดิชันนี้สามารถสั่งซื้อนาฬิกากับทางไทรอัมพ์ภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2022 จะมีสิทธิพิเศษในการได้รับนาฬิกาพร้อมสลักหมายเลขรถจักรยานยนต์ของตนลงบนตัวเรือน สำหรับรุ่น core-collection ที่จำหน่ายทั่วไปโดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเหลือบดีไซน์แบบขัดเงาในแนวตั้งตัดกัน
ไฮไลท์ของนาฬิกาทั้งสองรุ่นคือสีไอซ์บลูที่เป็นเอกลักษณ์บนหน้าปัด ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก สีโพลีโครมา ติกบลูของไทรอัมพ์ ธันเดอร์เบิร์ด 6ที (Triumph Thunderbird 6T) จากปี 1951 และ หน้าปัดสีฟ้าที่หายากของ ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ 815 (Breitling Top Time Ref. 815) จากปี 1970
ฟีเจอร์ต่างๆที่ใส่มาในนาฬิการุ่นนี้ ได้แก่ สายหนังลูกวัวในสไตล์เรียบหรูที่ช่วยขับความเปล่งประกายของโลโก้ Breitling และโลโก้ Triumph ที่หน้าปัดในตำแหน่ง 12 และ 6 นาฬิกาตามลำดับ ปุ่มกดจับเวลาขนาดใหญ่ที่ช่วยในการควบคุม การจับเวลาได้ง่ายทั้งฟังก์ชันเริ่ม-หยุด และรีเซ็ต พร้อมด้วยสเกลวัด Tachymeter แบบคอนทราสต์สูงที่ช่วยทำให้การอ่านค่าความเร็วชัดเจนยิ่งขึ้น ตัวนาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไกจาก Breitling Calibre 23 ซึ่งเป็นโครโนมิเตอร์ที่ได้รับการรับรองจาก COSC โดยมีพลังงานสำรองได้ประมาณ 48 ชั่วโมง
สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ ที่นักสะสมจะต้องหลงรัก คือฝาหลังของนาฬิกาที่ถูกสลักด้วยภาพสเกตช์รูปเครื่องยนต์สูบคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์ โดยการวางตำแหน่งของภาพนี้เป็นการวางที่แสดงให้เห็นถึงการลงลึกในรายละเอียดในตัวรถจักรยานยนต์ ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของและมีความใกล้ชิด หรือผู้ที่มีความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์รุ่นดั้งเดิมเท่านั้นที่จะได้เห็น
“สปีด ทวิน” โมเดลปี 2021
ที่สุดของสมรรถนะ และวิวัฒนาการเหนือชั้นในทุกมิติ
รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน (Speed Twin) ถูกเปิดตัวขึ้นในปี 2018 ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับรถจักรยานยนต์โมเดิร์นโรดสเตอร์ ด้วยการควบคุมรถระดับแนวหน้า การตอบสนองและสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่เร้าใจ เทคโนโลยีชั้นนำ รวมถึงสไตล์คัสตอมที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยการตกแต่งและรายละเอียดระดับพรีเมียม
ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน (Speed Twin) เป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับรางวัล และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก รวมถึงเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า อีกทั้งได้รับการยอมรับในด้านกำลังและแรงบิดจากรถรุ่นทรักซ์ตัน อาร์ (Thruxton R) ในแบบฉบับการตั้งค่าที่ขับขี่ได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังส่งมอบสไตล์คัสตอมแบบร่วมสมัย และการขับขี่ที่สะดวกสบายแบบรถรุ่นสตรีท ทวิน (Street Twin) พร้อมด้วยรายละเอียดการตกแต่งที่สวยงามและพรีเมียมยิ่งขึ้น
สำหรับรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน (Speed Twin) รุ่นใหม่ล่าสุด โมเดลปี 2021 ได้รับการวิวัฒนาการในทุกมิติ ตั้งแต่พละกำลังและสมรรถนะ ไปจนถึงการควบคุม เทคโนโลยี และสไตล์ จึงนับเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างคุณลักษณะ สไตล์ และสมรรถนะแบบรถจักรยานยนต์สปอร์ตขนานแท้
สมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น
การพัฒนาของสปีด ทวิน (Speed Twin) รุ่นปี 2021 มาในรูปแบบเครื่องยนต์บอนเนวิลล์แรงบิดสูงสูบคู่ขนาด 1,200 ซีซี ที่ให้สมรรถนะสูงขึ้น พร้อมกับการปล่อยไอเสียที่ลดลงตามมาตรฐาน Euro 5 โดยสามารถส่งมอบพละกำลังเพิ่มขึ้น 3 แรงม้า หรือสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 7,250 รอบต่อนาที และสามารถส่งกำลังช่วงกลางรอบได้เพิ่มขึ้นมากกว่ารุ่นก่อน
นอกเหนือจากการส่งกำลังและแรงขับเคลื่อนอันน่าทึ่ง รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน (Speed Twin) โมเดลปี 2021 ยังมีช่วงแรงบิดที่กว้างขึ้น ให้แรงบิดสูงสุด 112 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำลงมากกว่า 500 รอบต่อนาที เรียกกำลังเครื่องยนต์ใช้งานได้ตั้งแต่ช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำไปจนถึงรอบสูงเมื่อเทียบกับรถรุ่นก่อนหน้า
การตอบสนองของเครื่องยนต์สปีด ทวิน (Speed Twin) ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ที่ลดความเฉื่อยลง 17% จากเพลาข้อเหวี่ยงและอัลเทอร์เนเตอร์น้ำหนักเบารุ่นใหม่ ซึ่งการพัฒนาเหล่านี้ช่วยให้การเร่งเครื่องยนต์ได้เร็วยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า รวมถึงทำรอบได้เร็วขึ้นและ ดันรอบเรดไลน์สูงกว่าเดิม 500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ ลูกสูบแรงอัดสูงแบบใหม่ การปรับแต่งช่องไอดีไอเสียและตัวลูกเบี้ยวยังช่วยเติมเต็มการปรับปรุงสมรรถนะของรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ในด้านเสียงที่โดดเด่นของเครื่องยนต์ยังสามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์ของเสียงเครื่องยนต์บอนเนวิลล์สูบคู่สัญชาติอังกฤษ ด้วยท่อไอเสียคู่สแตนเลสสตีลปัดเงา ทรงสปอร์ตแบบใหม่ ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เสียงคำรามที่ทุ้มลึกสมกับชื่อเสียงของสปีด ทวิน (Speed Twin) ในตำนาน ในส่วนของเฮดเดอร์ท่อไอเสียที่ได้รับการออกแบบมาอย่างประณีตโดยซ่อนกล่อง catalyst ไว้ ให้การออกแบบ และรูปลักษณ์ที่ดูสะอาดตา
เช่นเดียวกับรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นในตระกูลโมเดิร์นคลาสสิก รถจักรยานยนต์สปีด ทวิน (Speed Twin) รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่คุ้มค่า ด้วยระยะซ่อมบำรุงต่อรอบที่ยาวนานถึง 16,000 กม.
การควบคุมระดับแนวหน้า
รถจักรยานยนต์รุ่นสปีด ทวิน (Speed Twin) รุ่นใหม่ เป็นที่ยอมรับในด้านการควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งมีการอัพเกรดคุณลักษณะในด้านความแม่นยำ ความคล่องตัว และไดนามิกของการขับขี่ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
สำหรับการอัพเกรดสเปคที่สูงขึ้นของสปีด ทวิน (Speed Twin) โมเดลปี 2021 มาพร้อมโช้คหน้าหัวกลับ Marzocchi ขนาด 43 มม. แบบคาร์ทริดจ์ ระยะยุบตัว 120 มม. เสริมความมั่นใจและความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้เข้ากันเป็นอย่างดี กับระบบกันสะเทือนหลังที่ใช้โช้คอัพคู่แบบ piggy-back สเปคสูงของ Öhlins แบบปรับได้ พร้อมสปริงโช้คสีดำเงาอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่นสปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชันเท่านั้น มอบการขับขี่ที่แม่นยำและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ในด้านการยกระดับสมรรถนะของรถรุ่นสปีด ทวิน (Speed Twin) รุ่นใหม่ล่าสุด ได้มีการอัพเกรดคุณลักษณะเฉพาะของคาลิปเปอร์เบรกหน้าแบบเรเดียลโมโนบล็อค 4 สูบ Brembo M50 ที่สเปคสูงขึ้น พร้อมด้วยจานเบรกคู่ Brembo ขนาด 320 มม. ควบคู่ไปกับเบรกหลังคาลิปเปอร์ 2 สูบแบบลอยตัวจาก Nissin และระบบ ABS ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อสมรรถนะในการเบรกที่ยอดเยี่ยม
เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม แม่นยำ และยังมีเสถียรภาพขณะความเร็วสูง สปีด ทวิน (Speed Twin) รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมยาง Metzeler Racetec RR ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมด้วยล้อหล่ออะลูมิเนียม 17 นิ้ว แบบ 12 ก้านที่มีน้ำหนักเบาทั้งล้อหน้าและล้อหลัง
สปีด ทวิน (Speed Twin) รุ่นใหม่ล่าสุด ยังสามารถส่งมอบการขับขี่ที่ใช้งานง่ายและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ ด้วยของความสูงเบาะนั่ง 809 มม. ซึ่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ขนาดของตัวรถที่สามารถยืนคร่อมได้อย่างสะดวกแฮนด์บาร์แบบเรียว และพักเท้าที่สะดวกสบายสไตล์โรดสเตอร์ โดยตำแหน่งพักเท้าอยู่เยื้องไปด้านหน้า 38 มม. และต่ำลง 4 มม. เมื่อเทียบกับรถรุ่นทรักซ์ตัน (Thruxton) ซึ่งมอบตำแหน่งการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีเหนือระดับ
รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน (Speed Twin) รุ่นใหม่ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ทั้งระบบคันเร่งไฟฟ้า (Ride-by-wire) ที่ช่วยควบคุมคันเร่งได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ ถนน (Road) ฝนตก (Rain) และสปอร์ต (Sport) นอกจากนี้ยังมีคุณลักษณะอื่น ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับโมเดลปี 2021 ทั้งการตอบสนองคันเร่งไฟฟ้า และระบบการควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้ (Traction Control) เพื่อให้เหมาะกับความต้องการของผู้ขับขี่ ในขณะที่ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ในขณะขับขี่เพียงแค่กดปุ่ม เพื่อเลือกโหมดที่ตอบสนองสภาพการขับขี่ อีกทั้งเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจ รวมถึงผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกเปลี่ยนระบบการควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) ขณะขับขี่ผ่านเมนูบนหน้าจอ
นอกจากนี้รถจักรยานยนต์รุ่นนี้ยังติดตั้งไฟท้าย ไฟเลี้ยวและแบบ LED รวมทั้งไฟหน้าแบบ DRL
อีกเทคโนโลยีที่น่าสนใจของสปีด ทวิน (Speed Twin) คือ หน้าจอเรือนไมล์ 3 มิติแบบร่วมสมัยที่มีระบบเมนูแบบดิจิทัล โดยผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้ผ่านปุ่มควบคุม ที่ติดตั้งมาบนแฮนด์บาร์ อีกทั้งผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ทั้งการบอกตำแหน่งเกียร์ มาตรวัดระยะการเดินทาง ระดับน้ำมัน และระยะทางที่วิ่งได้ก่อนน้ำมันเชื้อเพลิงจะหมด รวมถึงอัตราการใช้น้ำมันปัจจุบันและค่าเฉลี่ย อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงระบบการควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) และระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) ที่สามารถติดตั้งเพิ่มเป็นอุปกรณ์เสริมได้
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่อื่น ๆ ได้แก่ ช่องชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB ใต้เบาะนั่ง อุปกรณ์เสริมระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (Tyre Pressure Monitoring System) และระบบป้องกันการโจรกรรม (immobiliser) ที่ติดตั้งมาในกุญแจสุดพรีเมียมของไทรอัมพ์
รายละเอียดและสไตล์ที่พรีเมียมยิ่งขึ้น
การผสมผสาน DNA ที่เหนือกาลเวลาของไทรอัมพ์ เข้ากับสไตล์คัสตอมแบบ stripped back ทำให้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน (Speed Twin) โมเดลปี 2021 มีความสวยงามยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมรายละเอียดการตกแต่งที่มีสไตล์มากยิ่งขึ้น
นอกจากล้ออะลูมิเนียมหล่อ 12 ก้านแบบใหม่ และท่อเก็บเสียงคู่ทรงสปอร์ต พร้อมเฮดเดอร์สแตลเลสสตีลแบบปัดเงา รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน (Speed Twin) ยังมาพร้อมถังน้ำมันขนาด 14.5 ลิตร ในรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีส่วนโค้งเว้ารับส่วนขาของผู้ขับขี่ พร้อมด้วยกระจกปลายแฮนด์ที่สวยงาม แผงด้านข้างตัวรถ และเบาะนั่งที่มีสไตล์
รายละเอียดและการตกแต่งระดับพรีเมียมได้รับการผสมผสานอย่างลงตัวในรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ โดยประกอบด้วยชุดบังโคลนหน้าและหลังแบบอะลูมิเนียมปัดเงาพร้อมตัวยึดแบบใหม่ รวมถึงแผงด้านข้างตัวรถแบบอะลูมิเนียมปัดเงา และการ์ดข้อเท้า นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดการตกแต่ง และให้สัมผัสระดับพรีเมียมประกอบด้วยตัวยึดที่กรอบไฟหน้าชุบอโนไดซ์เพื่อให้เข้ากับกรอบไฟหน้าแบบทำสี พร้อมด้วยฝาถังน้ำมันสไตล์ Monza และสวิงอาร์มทำจากอะลูมิเนียมชุบอโนไดซ์
จุดกำเนิดของรถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นไอคอน
การเปลี่ยนโฉมของรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน (Speed Twin) รุ่นดั้งเดิมปี 1938 นับเป็นความสำเร็จครั้งแรกของเครื่องยนต์สูบคู่ ที่รวมเข้ากับโครงรถที่ได้รับการพลิกโฉมใหม่ โดยคุณลักษณะของการควบคุมที่มีไดนามิกและการตอบสนองที่ดีเยี่ยมทำให้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์กลายเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์อันดับหนึ่งของโลกที่ได้รับการยอมรับในด้านสมรรถนะและการควบคุมซึ่งเป็นต้นแบบให้แก่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ ๆ อีกทั้งมีชื่อเสียงระดับโลกจากการเป็น “รถจักรยานยนต์สำหรับผู้ขับขี่” ที่แท้จริง
นอกจากนี้รถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ สปีด ทวิน (Speed Twin) โมเดลปี 2021 ได้สร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งในด้านความสมดุลของสมรรถนะแรงบิดอันทรงพลัง การควบคุมที่คล่องตัว รวมถึงการออกแบบและรูปลักษณ์สไตล์คัสตอมร่วมสมัยอันน่าทึ่ง
SPECIFICATIONS
เครื่องยนต์และการส่งกำลัง |
|
ประเภทเครื่องยนต์ |
เครื่องยนต์สูบคู่ขนานแบบ SOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยของเหลว องศาจุดระเบิดเยื้องกัน 270 องศา |
ปริมาตรกระบอกสูบ |
1200 ซีซี |
กระบอกสูบ |
97.6 มม |
ช่วงชัก |
80 มม |
อัตราส่วนกำลังอัด |
12.1:1 |
กำลังสูงสุด |
100 แรงม้าที่ 7,250 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด |
112Nm ที่ 4,250 รอบต่อนาที |
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง |
ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงหลายจุดเป็นลำดับแบบอิเล็กทรอนิกส์ |
ท่อไอเสีย |
ท่อไอเสียคู่เข้า 2 ออก 2 ผิวปัดเงา พร้อมท่อเก็บเสียงคู่ |
ชุดขับท้าย |
ระบบโซ่ O ring |
คลัตช์ |
คลัตซ์เปียกผ่อนแรงแบบหลายแผ่น |
กระปุกเกียร์ |
6 สปีด |
โครงรถ |
|
โครงรถ |
โครงเหล็กคู่ เสริมเปลอะลูมิเนียม |
สวิงอาร์ม |
แขนคู่อะลูมิเนียม |
ล้อหน้า |
ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปขนาด 17x3.5 นิ้ว |
ล้อหลัง |
ล้ออะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปขนาด 17x5.0 นิ้ว |
ยางหน้า |
120/70 ZR17 |
ยางหลัง |
160/60 ZR17 |
ระบบกันสะเทือนหน้า |
โช้คหัวกลับ Marzocchi ขนาด 43 มม. ระยะยุบตัว 120 มม. |
ระบบกันสะเทือนหลัง |
โช้คอัพคู่แบบ piggy-back สเปคสูงของ Öhlins แบบปรับได้ |
ระบบเบรกหน้า |
จานเบรกคู่ Brembo ขนาด 320 มม. คาลิปเปอร์เบรกหน้าแบบเรเดียลโมโนบล็อค 4 สูบ Brembo M50 พร้อมระบบ ABS |
ระบบเบรกหลัง |
จานเบรกเดี่ยวขนาด 220 มม. พร้อมคาลิปเปอร์แบบสองสูบจาก Nissin และระบบ ABS |
หน้าจอเรือนไมล์ |
เรือนไมล์หน้าปัดคู่พร้อมหน้าจอมัลติฟังก์ชั่น LCD |
ขนาดและน้ำหนัก |
|
ความยาว |
2,099 มม. |
ความกว้างแฮนด์บังคับ |
778 มม. |
ความสูงไม่รวมกระจก |
1,097 มม. |
ความสูงเบาะนั่ง |
809 มม. |
ระยะฐานล้อ |
1,413 มม. |
มุมเรค |
22.3° |
ความยาว Trail |
91.5 มม. |
น้ำหนักเปียก |
216 กก. |
ความจุถังน้ำมัน |
14.5 ลิตร |
อัตราการสิ้นเปลือง |
|
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน |
5.1 ลิตร / 100 กม. |
ค่า CO2 |
116 ก./ กม. |
มาตรฐาน |
EURO5 |
23 กุมภาพันธ์ 2565
ผู้ชม 1186 ครั้ง