มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เปิดตัวรถกระบะคุณภาพระดับโลก โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ และรถอเนกประสงค์สุดหรู โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มต้นโครงการ IMV ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Innovative International Multi-purpose Vehicle” เมื่อปี พ.ศ.2547 โดยเป็นการย้ายฐานการผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายทั้งภายในประเทศ และส่งออกจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในระยะเวลาอันรวดเร็ว ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม ห้องโดยสารกว้างขวาง สมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน เป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในทุกสภาพการใช้งาน ทนทาน อัตราการดูแลรักษาต่ำ และรองรับทุกรูปแบบการใช้งานตั้งแต่ กระบะบรรทุกมาตรฐาน - สมาร์ทแค็บ - ดับเบิ้ลแค็บ รวมไปถึงรถอเนกประสงค์อย่างโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ส่งผลให้รถทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวเป็นรถยอดนิยมของคนไทย โดยมีลูกค้าครอบครองเป็นเจ้าของแล้ว รวมทั้งสิ้นกว่า 2.6 ล้านคัน* (*ข้อมูลยอดขายสะสมของโครงการ IMV ตั้งแต่ปี 2547 – พฤษภาคม 2563)
มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ก่อนอื่นเราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย และขอส่งกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงระหว่างรับการรักษาโรคนี้ ด้วยเหตุนี้เราจึงดำเนินโครงการ “โตโยต้าเคียงคู่ไทย สู้ภัยโควิด-19” (Toyota Stay with You) โดยผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ และกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้าในการสนับสนุนรถยนต์โตโยต้าจำนวนทั้งสิ้น 280 คัน เพื่อช่วยส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ตลอดจนภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจในทุกเส้นทาง นอกจากนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้ว่ารถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ของเราได้มีส่วนในการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยในสถานการณ์ที่ลำบากเช่นนี้
จากการที่พวกเราต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ ในขณะที่โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มีแผนประกาศเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เป็นครั้งแรกของโลก ทำให้ตัวผมเองคิดถึงวิธีการที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของเราออกสู่สาธารณชน และด้วยการที่ผมได้สังเกตเห็นความแข็งแกร่งของประเทศไทยและประชาชนชาวไทย ทำให้ผมนึกถึงคำว่า“THE UNBEATABLE” ในภาษาอังกฤษขึ้นมา ผมมั่นใจว่าประเทศไทยและคนไทยจะสามารถเอาชนะสถานการณ์นี้ไปได้โดยปราศจากความย่อท้อ แม้ว่าจะต้องพบกับอุปสรรคที่ยากลำบากใดๆ ก็ตาม ผมจึงนำคุณลักษณะของ “THE UNBEATABLE” ของคนไทยมาใช้กับการแนะนำรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ใหม่ และรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ในการเปิดตัวทั่วโลก
สำหรับโตโยต้า ไฮลักซ์ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในประเทศไทย และส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ภายใต้โครงการ IMV ซึ่งมียอดขายสะสมกว่า 2.6 ล้านคัน โดยในปี 2562 โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ และโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ยังคงมียอดขายเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งการตลาดรถกระบะ Pure Pick-up 38.3% และส่วนแบ่งการตลาดรถ PPV 43.4% ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่เชื่อมั่นในด้านคุณภาพการผลิตและศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยแต่งตั้ง ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นผู้ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยคนไทย อีกทั้งยังประกอบขึ้นด้วยฝีมือคนไทย และส่งออกไปยังทั่วโลกโดยคนไทย
พบกับ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่…พลังแกร่งเหนือนิยาม (THE UNBEATABLE)
ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค กล่าวว่า “เราเริ่มพัฒนาโปรเจคนี้ด้วยเป้าหมายที่ต้องการ “สร้างรถที่ดีที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” โดยการลงพื้นที่เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้รถจากทั่วทุกทวีป เพื่อให้ได้ข้อมูลในการออกแบบรถที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลกมากที่สุด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกที่เรานำเสนอรถในตระกูลนี้ถึง 5 รุ่น พร้อมกัน ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยฝีมือคนไทยตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการนำเอาข้อมูลท้ังหมดที่ได้รับจากการลงภาคสนาม นำมาสู่การพัฒนา รถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ภายใต้แนวคิด TOUGHNESS FOR EVERYONE ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ทั่วโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
จุดขายหลักของโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่
- การออกแบบ (Design) – มีความแข็งแกร่ง ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น
- รูปลักษณ์ภายนอกใหม่ที่ให้ความแข็งแกร่งในทุกมิติ แต่ยังแฝงความล้ำสมัย มาพร้อมกับไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam ไฟ LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding เพิ่มความโดดเด่น ในยามค่ำคืน
- รูปลักษณ์ภายใน เพิ่มความล้ำสมัยด้วยหน้าจอสัมผัส และมาตรวัดดีไซน์ใหม่
- สำหรับรุ่นพิเศษ Rocco นอกจากจะมีชุดตกแต่งพิเศษ อาทิ สปอร์ตบาร์ และล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters ที่เพิ่มความแข็งแกร่ง ดุดัน และความพรีเมียมแล้วนั้น ยังเพิ่มความสุด Exclusive ให้มากยิ่งขึ้นด้วย การออกแบบกระจังหน้าและกันชนหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Rocco ที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน นอกเหนือจากนี้ ภายในห้องโดยสาร ที่ตกแต่งให้สอดรับกับการออกแบบภายนอก ที่แข็งแกร่ง และดุดัน พร้อมยกระดับความพรีเมียมด้วยวัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบพิเศษ และไฟส่องสว่างภายใน
- ความนุ่มสบาย (Comfort) - ช่วงล่างที่ถูกปรับปรุงและพัฒนาขึ้นใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพและเปลี่ยนวัสดุของแหนบ เพื่อยกระดับความนุ่มสบายให้มากยิ่งขึ้น เสมือนนั่งรถ SUV ระดับหรู โดยที่ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในด้านความแกร่งทนทาน และอัตราการรับนํ้าหนักได้ดีเช่นเดิม
- สมรรถนะการขับขี่ (Performance)
1. ปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ตอบรับทุกการขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น
2. สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบ Off-Road :
2.1 เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง ราบรื่น ไม่สะดุด
2.2 หน้าจอ TFT แสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อ และติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างในขณะขับขี่
3. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งในเครื่องยนต์ 2.8 และ 2.4 ลิตร เพิ่มความประหยัดเป็นเลิศ
4. ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
- ความสะดวกสบาย (Convenience) - หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ พร้อม T-Connect ระบบเชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
- ความปลอดภัย (Safety) – ครั้งแรกกับการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มาไว้ในรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดไว้มากมาย อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการเปิดตัวโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลักในการสื่อสาร "พลังแกร่งเหนือนิยาม” หรือ “THE UNBEATABLE” โดยสื่อถึงสมรรถนะพลังของเครื่อง GD Super Power ใหม่ ที่ดุดัน เร้าใจ ที่มาพร้อมความแกร่งเกินนิยาม คือ ทั้งแข็งแรง หนักแน่น แต่ก็นุ่มนวลได้อย่างเหนือความคาดหมาย พร้อมด้วยช่วงล่าง Super Flex Suspension ทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนเอกลักษณ์ของคนไทย ที่มีความเป็นนักสู้ที่กล้าแกร่ง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคแม้ต้องเจอปัญหาหนักแค่ไหนก็พร้อมจะฝ่าฟัน สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและทำให้สำเร็จตามเป้าหมายได้ทุกครั้ง
โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าในทุกกลุ่มอาชีพ โดยเราได้กำหนดแนวทางการสื่อสารในครั้งนี้ ให้สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และบุคลิกของผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม
- โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นมาตรฐาน (B-Cab) เหมาะสำหรับใช้งานบรรทุกหนักเป็นหลัก เช่น กลุ่มธุรกิจที่เพื่อการขนส่ง (Logistics) และเกษตรกรขนผลิตผล ที่ผ่านมายืนยันได้จากความสำเร็จด้วยการมีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดใน segment นี้ ซึ่งในรุ่นมาตรฐานนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อการบรรทุกอย่างแท้จริง ด้วยเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังสูง 204 แรงม้า และประหยัดน้ำมัน รวมถึงระบบช่วงล่างที่แข็งแกร่งรองรับน้ำหนักบรรทุกได้อย่างดีเยี่ยม สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มธุรกิจได้ในทุกมิติจากผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุกประเภทการใช้งาน ทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อ แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และแบบ หัวเดี่ยว (Cab & Chassis) ที่รองรับการติดตั้งเพิ่มเติม เช่น ต่อเติมตู้แห้ง-ตู้เย็น ต่อคอก โดยลูกค้า สามารถจบทุกความต้องการได้ด้วยการบริการทางการเงินที่ครอบคลุมแบบ One Stop Service พร้อมกันนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่าย T-Connect และ Fleet Telematics Service ระบบบริหารยานพาหนะและการขนส่งครบวงจร ช่วยให้การจัดการและการดำเนินธุรกิจขนส่ง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านเวลา ต้นทุน และคุณภาพสินค้า อีกทั้งยังให้บริการทางด้านการเงิน Full Service Lease ในการเช่าซื้อแบบครบวงจร เพื่อช่วยในการบริหารสภาพคล่องทางการเงินในยุคเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้ลูกค้าสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล
- โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่น Z-edition สำหรับรถกระบะตัวเตี้ย มีความหลากหลายในการใช้งาน ที่เหมาะสำหรับทั้งใช้ในชีวิตประจำวัน หรือทำธุรกิจ งานบรรทุก การค้าขายปลีก-ส่ง ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน โดยที่ผ่านมามีกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ต้องการมีรถยนต์เป็นคันแรก โตโยต้าได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ ด้วย “Z-Edition ตัวเตี้ยหน้าหล่อ” ที่มีดีไซน์ที่โดนใจ เสริมทัพด้วยการจัดกิจกรรม “Racing Mania” ที่เป็นการรวมกลุ่มทำกิจกรรมของผู้ที่หลงใหลการแต่งรถ ให้มาแลกเปลี่ยนไอเดียกัน เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จและครองความเป็นผู้นำในตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ ได้พัฒนาให้มีรูปลักษณ์ใหม่ที่เท่ห์สะดุดตา ทันสมัย สวยเร้าใจในทุกมุมมอง สำหรับลูกค้าที่ต้องการความแตกต่างและโดดเด่น สามารถตกแต่งเพิ่มได้ตามความต้องการจากร้านรถแต่งชั้นนำ ด้านสมรรถนะมีขุมพลังจากเครื่องยนต์ GD Super Power 2.4 ลิตร ที่ให้การประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ความบันเทิงในรถ แบบหน้าจอสัมผัส Touchscreen ที่รองรับการใช้งาน Apple CarPlay โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ
นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ (New Buying Experience) เราได้มีการจัดแต่งรถในโชว์รูม เพื่อเป็นตัวอย่างแนวทางการใช้งานและไอเดียในการแต่งรถ ด้วยแพ็กเกจชุดแต่งหลากหลายทางเลือกแบบ One Stop Service และพร้อมเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ด้วยระบบ Connected Auto Loan หรือ CAL และบริการ Sabuy :D ที่ฉีกมิติใหม่ในการเช่าซื้อ ด้วยการผ่อนต่ำลง 18% เมื่อเทียบกับโปรแกรมเช่าซื้อปกติ แต่รวมแพคเกจเช็กระยะ 23,000 กม.พร้อมรับประกันราคาขายต่อในอนาคต และระบบ Theft Track หรือการติดตามการโจรกรรม ที่เสมือนรถอยู่ในสายตาให้ความปลอดภัยจากการโจรกรรมตลอดเวลา
- โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นยกสูง (Pre-runner) ถือได้ว่าเป็นรถกระบะยอดนิยมของคนไทย สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่อเนกประสงค์ และสะดวกสบายเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง ด้วยดีไซน์ ที่สวยงาม ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ง่าย ระบบช่วงล่างและระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล รวมถึงสิ่งอำนวยสะดวกภายในรถที่ครบครัน ทำให้โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่รุ่นยกสูง ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งด้านการขายและได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งชายและหญิง ในหลากหลายกลุ่มอาชีพ อาทิ ข้าราชการ และบุคคลทั่วไป โดยรุ่นใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นในทุกมิติ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูบึกบึน ทันสมัย ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวและส่องสว่างได้ดียิ่งขึ้น ขุมพลังจากเครื่องยนต์ GD Super Power ใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องพละกำลังและความประหยัดสูงสุด ระบบช่วงล่างใหม่ “Super Flex Suspension” ที่ทำให้การขับขี่นุ่มนวลเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง พร้อมเพิ่มระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC ที่ช่วยในการควบคุมพวงมาลัย ลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่สำหรับผู้ที่ต้องขับรถในระยะทางไกลๆ และระบบ VSC ที่ติดตั้งในรุ่นกลางเป็นต้นไป
สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถเพิ่มเติม สามารถซื้ออุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากโตโยต้า TGA (Toyota Genuine Accessories) ที่ออกแบบใหม่ให้ตรงกับความต้องการใช้งานของลูกค้ามากขึ้น พร้อมนำเสนอบริการทางเลือกใช้รถรูปแบบใหม่ “KINTO” บริการออนไลน์รูปแบบใหม่สำหรับลูกค้าบุคคลเช่ารถระยะยาว ที่พร้อมให้บริการออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การจอง การอนุมัติสินเชื่อ ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้รถที่สอดรับรูปแบบการเดินทางใหม่ โดยลูกค้าสามารถเลือกรุ่น สี และระยะเวลาในการใช้งานได้ตรงตามไลฟ์สไตล์ คลายความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงราคาขายต่อ
รวมไปถึงประกันภัยรูปแบบใหม่ ประกันภัยขับดีลดให้ Toyota Care PHYD (Pay How You Drive) ที่จะทำให้ประหยัดได้มากกว่า ด้วยส่วนลดจากการวิเคราะห์ข้อมูลการขับขี่ ขับรถดี ขับปลอดภัย จะมีส่วนลดค่าเบี้ยประกันต่ออายุ สูงสุดถึง 45% สามารถซ่อมได้ที่ศูนย์บริการมาตรฐานโตโยต้า ได้นานสูงสุด 8 ปี
- โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นพิเศษ Rocco และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ใช้งาน ในเมือง เน้นความสง่างาม ชื่นชอบกิจกรรมในยามว่าง และมีงานอดิเรก ชอบท่องเที่ยวแบบผจญภัย ลูกค้าจึงมีความต้องการรถที่มีสมรรถนะการขับขี่ และความสะดวกสบายดีเยี่ยม รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสูง โดยปัจจุบัน Hilux Revo รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และรุ่น Rocco ได้รับความนิยมและครองใจแฟนๆ จากสิงห์รถกระบะอย่างหนักแน่น ตอกย้ำฉายา “King of Off-Road” โดยรุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับเปลี่ยนดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในแบบ Exclusive เฉพาะในรุ่น Rocco เพื่อสื่อถึงความพรีเมียม แข็งแกร่ง ทรงพลัง และสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพื่อสอดคล้องกับภาพลักษณ์ และการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ นอกจากนี้ในด้านสมรรถนะการขับขี่ได้ปรับปรุงขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ GD เจเนเรชั่นที่ 2 “GD Super Power” ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร พร้อมทั้งยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ที่ทำงานร่วมกับช่วงล่างใหม่ Super Flex Suspension ที่เกาะถนนและนุ่มนวลยิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะการบุกตะลุย มอบประสบการณ์การขับขี่ ขึ้น-ลงเขาที่ง่ายดายกว่าเดิม
ครั้งแรกกับการนำเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นสูง Toyota Safety Sense มาใช้ในรถกระบะ โตโยต้าในประเทศไทย ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจและปลอดภัยทุกเส้นทาง พร้อมเพิ่มประสบการณ์ใหม่ในการซื้อรถด้วยแอปพลิเคชัน T-Connect by Toyota เพื่อติดตามสถานะการส่งมอบรถของท่านผ่านโทรศัพท์มือถือ และเพิ่มความอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลด้วย ระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Track) หรือ การติดตามการโจรกรรม การแสดงข้อมูลการขับขี่ Trip Report การเช็กตำแหน่งรถ (Find My Car) และยังมีบริการผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะดูแลให้ความช่วยเหลือลูกค้าตลอดเวลาในทุกเส้นทาง Toyota Tube ที่จะเป็นสื่อแนะนำการใช้รถยนต์ในรูปแบบวีดีโอบนโทรศัพท์มือถือ
สำหรับโตโยต้า ไฮลักว์ รีโว่ ใหม่ จะเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นไป
พบกับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่…Wisdom of a Leader
พร้อมกันนี้ โตโยต้าได้เปิดตัวรถอเนกประสงค์สุดหรู โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีด้วยยอดขายอันดับ 1 ในตลาด PPV ตลอดมา
ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค กล่าวว่า “อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ โตโยต้า นั่นก็คือโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รถยนต์อเนกประสงค์ประเภท PPV ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทยมาโดยตลอด นับตั้งแต่มีการเปิดตัวในเจเนเรชั่นที่ 2 ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการปรับโฉมอย่างเป็นทางการในรอบ 5 ปี โดยเราได้ออกแบบและพัฒนารูปลักษณ์ให้มีความ “Prestige & Cool” มากยิ่งขึ้น เพื่อสะท้อนตัวตนความเป็นผู้นำของผู้ขับขี่อย่างมีระดับ เน้นความหรูหราและทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยกลางคนที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว และใช้งานในชีวิตประจำวัน ในครั้งนี้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ มาพร้อมกันถึง 2 รุ่น 2 ดีไซน์ โดยมีรุ่นมาตรฐานและรุ่นพิเศษ”
จุดขายหลักของโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่
- การออกแบบ (Design)
รุ่นมาตรฐาน รูปลักษณ์ภายนอก ที่ปรับดีไซน์กระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน เพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่งให้กับตัวรถ ดูหรูหรา บึกบึนมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ และปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อมกับ Light Guiding เพิ่มความโดดเด่นในยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังปรับล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่ให้รับกับตัวรถ
รุ่นพิเศษ ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า “Legender” ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันให้แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอย่างชัดเจน คำนึงถึงความสวยงามของเส้นสายที่ดูเฉียบคมมากยิ่งขึ้น ตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพิ่มความโฉบเฉี่ยว ด้วยสัดส่วนกระจังหน้าที่แตกต่าง เพิ่มความทันสมัยด้วย ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential ไฟสูงและไฟต่ำแบบ LED พร้อมปรับดีไซน์กันชนหลังใหม่ให้สอดรับกับดีไซน์ด้านหน้าอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนลายล้ออัลลอย 20 นิ้วเป็นดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับหลังคาทูโทน ให้ความโดดเด่น ยกระดับการเป็น Flagship Model สะท้อนภาพลักษณ์สปอร์ตระดับผู้นำ ดีไซน์หรูหรา แบบ Sport Premium PPV”
- ความสะดวกสบาย (Comfort)
1. หน้าจอสัมผัสที่รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ พร้อมระบบ T-Connect ที่เชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว
2. กล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ เพิ่มทัศนวิสัย และให้ความปลอดภัยสูงสุด
3. สัญญาณเตือนกะระยะ หรือ Park Sensor ให้ทุกการจอดง่ายสำหรับคุณ
4. ระบบ Activated Kick Door เปิดประตูหลังได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสตัวรถ
5. แท่นชาร์จไร้สาย เพื่อตอบสนองการใช้งานในปัจจุบัน
- สมรรถนะการขับขี่ (Performance)
1. เครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดได้ถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ตอบรับทุกการขับขี่ได้อย่างเต็มสมรรถนะ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น
2. เพิ่มเพลาปรับสมดุล (Balance Shaft) ในเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าสู่ห้องโดยสาร เพิ่มความเงียบและความนุ่มนวลในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
3. สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบ Off-Road:
3.1. เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง ราบรื่น ไม่สะดุด
3.2. แสดงข้อมูลตำแหน่งองศาของล้อบนหน้าจอ MID และติดตั้งสัญญาณเตือนกะระยะด้านท้าย และมุมกันชนหน้า-หลัง เพื่อช่วยตรวจสอบสิ่งกีดขวางรอบข้างขณะขับขี่
4. เพิ่มระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็วให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ
5. Sport Mode เพื่อช่วยให้การขับขี่ของคุณสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับการทำงานของคันเร่งให้ตอบสนองเร็วยิ่งขึ้น และปรับการทำงานของพวงมาลัยให้มีน้ำหนักมากขึ้น เหมาะสำหรับการเร่งแซงและการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูง
- ความปลอดภัย (Safety) – ครั้งแรกกับการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มาไว้ในรถอเนกประสงค์ PPV ของโตโยต้า ที่เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดไว้มากมาย อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Cruise Control) และ ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข กล่าวปิดท้ายว่า “แม้เราตั้งใจจะออกแบบรถสําหรับผู้ใช้ทั่วโลก แต่สิ่งที่เราให้ความสําคัญที่สุดก็คือลูกค้าชาวไทย โดยเราคํานึงถึงการใช้งานทั้งในเมืองและแบบสมบุกสมบัน ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งเรื่องงานและการใช้ชีวิตกับครอบครัวได้อย่างลงตัว และนี่จะเป็นก้าวสําคัญของวงการรถกระบะ และรถ อเนกประสงค์ระดับโลกกับความแกร่งทุกมิติ ที่คิดค้นโดยคนไทย เพื่อคนไทย อย่างแท้จริง”
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อ 15 ปีก่อน โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นรถอเนกประสงค์ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า และครองอันดับ 1 ในตลาดรถอเนกประสงค์ ประเภท PPV มาอย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นของมาตรฐานการผลิต คุณภาพของ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่แข็งแรง ทนทาน และปลอดภัย การออกแบบที่โดดเด่น หรูหรา และสง่างาม การบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม Cost of Ownership ต่ำ ดังนั้น เพื่อรักษาความเป็นที่ 1 ในใจลูกค้า โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับให้หรูหราและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น สะท้อนตัวตนผู้ใช้รถ มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ที่มีวิสัยทัศน์และมองหารถที่สะท้อนตัวตนความเป็นผู้นำ มีองค์ประกอบที่โดดเด่นในทุกมิติ พร้อมลุยไปได้ทุกที่ และสำคัญที่สุดคือ ความคุ้มค่าของรถที่มีให้กับลูกค้า จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทางการตลาด ภายใต้สโลแกน “Wisdom of a Leader” หรือ “สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ” สะท้อนความเป็นยนตรกรรมที่ผสานทุกความเป็นที่สุดไว้ในหนึ่งเดียว สู่สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของผู้นำ
โดยโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ มีเป้าหมายเจาะกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น ด้วยดีไซน์ใหม่และฟังค์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอายุ ที่มีวิสัยทัศน์ และมองหารถที่สะท้อนตัวตนความเป็นผู้นำ มีองค์ประกอบที่โดดเด่นในทุกมิติ พร้อมลุยไปได้ทุกที่ และสำคัญที่สุดคือ ความคุ้มค่าของรถ จะถูกแนะนำ 2 รุ่นด้วยกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าโตโยต้า
- โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นมาตรฐาน เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีครอบครัว มองหารถที่ใหญ่ขึ้น และให้ความสำคัญด้านความคุ้มค่า โดยรุ่นมาตรฐานนี้ได้ปรับปรุงเครื่องยนต์ 2.4 GD Super Power ให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม และตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ทำให้น้ำหนักพวงมาลัยแปรผันตามความเร็ว ควบคุมรถได้แม่นยำและมั่นใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Cruise Control และสัญญาณกะระยะ 6 ตำแหน่ง ที่จะช่วยคุณขับขี่ได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Apple Carplay ที่จะเชื่อมต่อคุณและความบันเทิงได้อย่างอิสระ
สำหรับการเปิดตัวครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกในการนำเสนอประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ (New Buying Experience) ที่ลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลสถานะคงเหลือของรถ (Stock) อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบระยะเวลาการส่งมอบรถได้อย่างแม่นยำกับระบบ Estimate Time of Arrival (ETA) และฟังก์ชันพิเศษที่จะปฏิวัติการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ให้เป็นเจ้าของรถง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Connected Auto Loan (CAL) นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่มองหาอิสระในการใช้รถ ก็สามารถใช้บริการเช่าใช้ส่วนบุคคล หรือ KINTO ผ่านระบบออนไลน์ ได้อีกด้วย
ในขณะเดียวกัน ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ (New Usage Experience) เพียงแค่ลงทะเบียนผ่าน Application T-Connect by Toyota ที่มีฟังก์ชันหลากหลาย อาทิ บริการผู้ช่วยส่วนตัว ตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อมต่อความสุข และสร้างความสบายใจให้ตลอดทุกเส้นทาง
พร้อมกับประกันภัยรูปแบบใหม่ ประกันภัยขับดีลดให้ Toyota Care PHYD (Pay How Your Drive) ซึ่งทำให้ลูกค้าจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยตามพฤติกรรมการขับขี่ ผู้ที่ขับขี่อย่างปลอดภัยจะได้ประโยชน์เป็นส่วนลดและยังเป็นการสร้างความปลอดภัยในสังคมมากยิ่งขึ้น
- โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นพิเศษ สะท้อนสัญลักษณ์ตัวตนของผู้นำ จะใช้ชื่อว่า Toyota Fortuner Legender เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มองหารถที่โดดเด่นด้านรูปลักษณ์ และฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย โดยโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender มาพร้อมกับดีไซน์ที่ออกแบบให้หรูหรา และยกระดับความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น สะกดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ และเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ใหม่ เพิ่มสมรรถนะการขับขี่แรงขึ้นกว่าเดิม 15% ด้วยกำลังสูงสุด 204 แรงม้า และฟังก์ชัน Sport Mode ที่จะทำให้การขับขี่สนุกและเร้าใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่ม Balance shaft ที่จะช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าสู่ห้องโดยสาร กล้องมองรอบคัน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ให้ปลอดภัย ตอบรับไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันด้วย แท่นชาร์ไฟแบบไร้สาย และ ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อม Kick Sensor และยังเป็นครั้งแรกในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense
พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้กับลูกค้าทุกท่านด้วยระบบ T-Connect ที่สามารถเช็กตำแหน่งรถตามเวลาจริง (Real Time) ได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Track) และระบบประสานความช่วยเหลือ SOS ของโตโยต้าได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีบริการแจ้งเตือนล่วงหน้าสำหรับเข้าศูนย์บริการ Telematic Care ช่วยให้การดูแลรถยนต์ของลูกค้าเป็นเรื่องง่าย และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ จะเปิดให้จองได้ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ รุ่นมาตรฐานสามารถส่งมอบรถให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 และสำหรับรุ่น Legender จะสามารถส่งมอบได้ในเดือนสิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเสริมว่า “การเปิดตัวรถใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ของโตโยต้า The New Era of Experience พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ของทุกท่านด้วย Digital Platform ที่ผ่านความร่วมมือระหว่างพันธมิตรของโตโยต้า เพื่อส่งมอบประสบการณ์การซื้อรูปแบบใหม่ New Buying Experience และประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ New Usage Experience ให้แก่ลูกค้าผ่านแอปพลิเคชัน T-Connect by Toyota ให้คุณอุ่นใจปลอดภัยไร้กังวลในทุกสถานการณ์ ให้การดูแลรถยนต์เป็นเรื่องง่าย และเชื่อมต่อความสุขทุกเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ ที่เตรียมพร้อมไว้ เช่น แพ็คเกจประกันภัยชั้นหนึ่ง Convini-insure คุ้มครองนาน 3 ปี ที่สามารถนำไปรวมกับยอดแบ่งจ่ายรายเดือนได้ รวมถึง Toyota Tube ที่จะเป็นสื่อแนะนำการใช้งานรถยนต์ในรูปแบบวีดีโอบนโทรศัพท์มือถือ ให้ลูกค้าได้มั่นใจประสิทธิภาพรถของเรายิ่งขึ้น”
มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวโดยสรุปว่า “จากการเข้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ ของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มา 3 ปีแล้ว ผมตัดสินใจที่จะลงแข่งขันโดยขับรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ในประเทศไทย นั่นเป็นเพราะว่าผมอยากที่จะสัมผัสประสบการณ์ และรับรู้ถึงความรู้สึกของลูกค้าที่มีต่อรถโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ อย่างถ่องแท้ โดยเราได้จัดการแข่งรถเพื่อการกุศลของบรรดาผู้บริหารโตโยต้า (Toyota Executive Charity Race) ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในตอนนั้นผมเข้าร่วมการแข่งขันกับคุณสุรศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตลอดจนยังมีผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่หลายท่าน และท่านเจ้าของผู้แทนจำหน่ายฯ บางท่านเข้าร่วมการแข่งขันด้วย สรุปคือพวกเราทุกคนรักโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่และเราอยากพัฒนาโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”
“จากประสบการณ์ที่ผมได้รับจากการเผชิญสภาพการแข่งขันที่หนักหน่วง สุดท้ายผมก็เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ถึงเสียงตอบรับที่ลูกค้ามีต่อรถไฮลักซ์ รีโว่ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจว่าจะลงมือพัฒนาจุดต่างๆ เหล่านี้ในรุ่นใหม่ล่าสุด ผมเองได้ทดลองขับโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ใหม่ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ใหม่มาหลายครั้งแล้ว และขอยอมรับว่านี่คือรถกระบะที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นรถแข่งที่มีสมรรถนะเยี่ยมยอด ผมรู้สึกได้ถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งเป็นการพัฒนาครอบคลุมทุกด้านที่เราได้รับเสียงตอบรับมาจากลูกค้า ทั้งด้านรูปลักษณ์หน้าตาที่ดุดันมากขึ้น ชุดไฟท้ายที่โดดเด่นเหนือระดับ สะกดทุกสายตา การเพิ่มประสิทธิภาพของช่วงล่าง เครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง ที่มีแรงม้ามากขึ้น การตอบสนองด้านการขับขี่ ความรู้สึกของอัตราการเร่งที่เหนือระดับ แต่ยังคงความประหยัดเชื้อเพลิงและมีความเงียบ ไม่เพียงเท่านี้ เพราะเรายังนำเสนอคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม
ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในรถรุ่นใหม่นี้ และอยากให้ลูกค้าคนสำคัญของเรา พี่น้องสื่อมวลชนได้ทดลองขับและสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ที่จะได้รับจากการขับขี่รถรุ่นใหม่ของเรา จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เรามีความภาคภูมิใจที่จะแนะนำให้ทุกท่านได้พบกับโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ที่เพียบพร้อมไปด้วยเสน่ห์และความคุ้มค่ามากที่สุดในวงการรถยนต์ สำหรับ “ลูกค้าชาวไทยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแกร่งเหนือนิยาม” นำเสนอโดยผู้บริหารของโตโยต้า ผู้ซึ่งเป็นนักแข่งไฮลักซ์ที่ทั้งดุดันและรักในสปิริตของความเป็นไฮลักซ์ ขอให้ทุกท่านสนุกให้เต็มที่นะครับ ผมมั่นใจว่าทุกท่านจะประทับใจกับประสบการณ์นี้ไปกับเรา”
พร้อมเป็นเจ้าของโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่…พลังแกร่งเหนือนิยาม
40 รุ่นย่อย มีสีภายนอกให้เลือก 8 สี (สีใหม่ 3 สี)
- Dark Blue Mica (ใหม่) (เฉพาะรุ่นยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ / ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
- Emotional Red (ใหม่) * (เฉพาะรุ่น Rocco)
- Oxide Bronze Metallic (ใหม่) * (เฉพาะรุ่น Rocco)
- White Pearl CS* (เฉพาะรุ่น Rocco / ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกรด High / ยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ)
- Silver Metallic (ยกเว้นรุ่น Rocco)
- Dark Grey Metallic (ยกเว้นรุ่น Rocco / Cab & Chasis)
- Attitude Black Mica (ยกเว้นรุ่นมาตรฐาน)
- Super White** (ยกเว้นรุ่น Rocco / ขับเคลื่อน 4 ล้อ / ยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner เกรด High)
ราคา
ไฮลักซ์ รีโว่ Rocco
- มี 4 รุ่น ราคา 949,000 – 1,239,000 บาท
ไฮลักซ์ รีโว่ แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
- มี 5 รุ่น ราคา 862,000 – 1,159,000 บาท
ไฮลักซ์ รีโว่ ยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner
- มี 12 รุ่น ราคา 707,000 – 1,009,000 บาท
ไฮลักซ์รีโว่ Z-Edition
- มี 12 รุ่น ราคา 609,000 – 809,000 บาท
ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นมาตรฐาน
- มี 7 รุ่น ราคา 544,000 – 704,000 บาท
(*สำหรับสี Emotional Red และ สี White Pearl CS เพิ่ม 10,000 บาท / ** สี Super White ลด 7,000 บาท)
สำหรับลูกค้าที่ซื้อ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่ทุกคัน จะได้รับแคมเปญช่วงแนะนำ และแพ็คเกจการรับประกันคุณภาพ เพิ่มเติมเป็น 5 ปี 150,000 กม. พร้อมค่าแรงเช็กระยะฟรีไปจนถึง 100,000 กม. รวมมูลค่ากว่า 60,000 บาท เพิ่มเติมสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าโตโยต้ากับ Toyota Privilege More
พร้อมเป็นเจ้าของ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่…สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender มี 4 รุ่นย่อย (เริ่มส่งมอบเดือนสิงหาคม 2563)
มีสีภายนอกให้เลือก 3 สี (สีใหม่ 1 สี)
- Emotional Red Black Top (ใหม่) *** - White Pearl CS Black Top ***
- Attitude Black Mica
ราคา
- 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท
- 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,769,000 บาท
- 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,634,000 บาท
- 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,564,000 บาท
(*** สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี White Pearl CS Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นมาตรฐาน มี 3 รุ่นย่อย
มีสีภายนอกให้เลือก 6 สี (สีใหม่ 2 สี)
- Dark Blue Mica (ใหม่) - Emotional Red (ใหม่) ****
- White Pearl CS **** - Silver Metallic
- Dark Grey Metallic - Attitude Black Mica
ราคา (เปิดตัววันนี้ - 30 กันยายน 2563)
- 2.4V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,494,000 บาท จาก 1,524,000 บาท
- 2.4V เกียร์อัตโนมัติ 1,424,000 บาท จาก 1,454,000 บาท
- 2.4G เกียร์อัตโนมัติ 1,319,000 บาท จาก 1,349,000 บาท
(**** สำหรับสี Emotional Red และ สี White Pearl CS เพิ่ม 12,000 บาท)
สำหรับลูกค้าที่ซื้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ จะได้รับแพ็คเกจรับประกันคุณภาพ 5 ปี 150,000 กม. และขยายค่าแรงเช็กระยะฟรี จนถึง 100,000 กม. มูลค่ากว่า 45,000 บาท พิเศษวันนี้ ถึง 30 กันยายนเท่านั้น
พบกับ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่…พลังแกร่งเหนือนิยาม และ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่…สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน เป็นต้นไป
ทดลองขับได้ที่ Toyota Driving Experience Park (TDEX) บางนา (กม.3)
ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน เป็นต้นไป
ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่ :
https://www.toyota.co.th/
Facebook: Toyota Motor Thailand , Hilux Revo Thailand
LINE ID: @ToyotaThailand
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.toyota.co.th/news/8jl8oGjz
04 มิถุนายน 2563
ผู้ชม 535 ครั้ง