กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 18 กันยายน 2562 – มาสด้า เซลส์ ประเทศไทยเปิดตัวแนะนำ ALL-NEW MAZDA3 มาพร้อมแนวคิด “A New Era Begins” รถยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งคัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ยึดหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง นำเอาท่วงท่าการเดินที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์มาเป็นต้นแบบในการพัฒนา เกิดเป็นรถยนต์ที่สามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างแม่นยำและสมดุลในทุกสถานการณ์ ด้วยสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ทำงานผสานกับระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus ที่ช่วยให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารสะดวกสบายยิ่งขึ้น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทั้งผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนนมากยิ่งขึ้น มีให้เลือก 2 สไตล์ ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และฟาสท์แบค 5 ประตู ราคาจำหน่าย เริ่มต้น 969,000 บาท ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร** พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การเปิดตัวแนะนำ ALL-NEW MAZDA3 ในวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดประเทศไทยเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นยานยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้าอย่างเป็นทางการด้วย หลังจากที่ได้เตรียมวางกลยุทธ์การตลาด และดำเนินการไปพร้อมๆ กันในทุกมิติ เพื่อถ่ายทอดภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ในทุกองค์ประกอบ ทั้งภาพลักษณ์ใหม่ของโชว์รูม และมอบนโยบายการให้บริการ การวางรูปแบบการสื่อสารใหม่ในช่องทางต่างๆ เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังทยอยลงสู่ตลาด เพื่อก้าวสู่ความเป็น “มาสด้า พรีเมียม” ที่ลูกค้าจะสามารถสัมผัสถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์ อันเกิดจากความงดงามของการออกแบบที่มาสด้าบรรจงสรรสร้างขึ้นด้วยความประณีตพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด คัดสรรเฉพาะวัสดุเกรดคุณภาพ พร้อมสมรรถนะการขับขี่เพื่อส่งมอบความเพลิดเพลินและเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถ และสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน
ALL-NEW MAZDA3 คือความปรารถนาของผู้คนทั่วโลก เมื่อเราเริ่มต้นบทใหม่ในประวัติศาสตร์ของมาสด้า ภารกิจสำคัญของ ALL-NEW MAZDA3 จึงเป็นการสร้างความประหลาดใจ และความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั่วโลก แนวทางของการพัฒนา คือ “ความปรารถนาของผู้คนทั่วโลก” การสร้างสรรค์รถยนต์ที่ทำให้เกิดความปรารถนาจากบุคคลใดๆ จึงต้องมีการสร้างคุณค่าใหม่อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนจนถึงปัจจุบัน เรามุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้โดยใช้หลักปรัชญาให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางในการปรับปรุงทุกๆ ด้าน ได้แก่ การออกแบบ สมรรถนะการขับขี่ ลดเสียงที่เกิดจากการสั่นสะเทือน ลดความกระด้าง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความรู้สึกถึงคุณภาพอันประณีต
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การส่ง ALL-NEW MAZDA3 ลงสู่ตลาด ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของมาสด้า ประเทศไทย และทั่วโลก เพื่อยกระดับตลาด C-Segment ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นในทุกองค์ประกอบ โดยให้ความสำคัญกับมนุษย์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ใช้ถนน ALL-NEW MAZDA3 มาพร้อมแนวคิด “A New Era Begins” สามารถตอบโจทย์ทั้งคนโสดที่อยู่ในวัยทำงาน หรือเพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว มุ่งมั่นแสวงหาความสำเร็จให้กับชีวิต และมองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและครอบครัว การออกแบบ KODO design ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น โดยยึดหลัก “Less is More” เน้นความเรียบง่ายทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน โดดเด่นสะดุดตาด้วยแสงและเงาจากธรรมชาติที่ตกกระทบบนตัวรถ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้ง ซีดาน 4 ประตู ที่เน้นความเรียบหรูใส่ใจในทุกรายละเอียด ดูมีเสน่ห์ น่าค้นหา ตอบโจทย์ลูกค้าชื่นชอบความหรูหรา ส่วนฟาสท์แบค 5 ประตู โดดเด่นด้วยความสปอร์ต เน้นความเรียบง่ายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยขุมพลัง แม้จะใช้ชื่อรุ่นเดียวกัน แต่คอนเซ็ปต์การออกแบบ และรูปลักษณ์ที่แสดงออกมาแตกต่างกันอย่างชัดเจน
เป้าหมายของวิวัฒนาการใหม่ของ KODO design คือ การแสดงออกถึงรูปแบบใหม่ของความสง่างามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น ALL-NEW MAZDA3 เป็นรูปแบบของกระบวนการผลิตครั้งแรกที่นำการออกแบบ KODO design มาผสานกับ “การเคลื่อนไหวที่เป็นหนึ่งเดียว” เพื่อให้เกิดความเรียบง่ายที่สุดในทุกองค์ประกอบ ทิศทางของแสงและเงาสะท้อนให้เห็นการเคลื่อนไหวตลอดเวลา แสงที่สะท้อนไปบนตัวรถทำให้เกิดการแสดงออกที่มีนัยสำคัญและน่าทึ่งเกินกว่าการออกแบบในรุ่นก่อนหน้า เป้าหมายอีกประการหนึ่งในการออกแบบ คือ การออกแบบรุ่นฟาสท์แบคให้อารมณ์มากกว่าเดิม ในขณะที่รุ่นซีดานมีเป้าหมายที่จะนำเสนอภาพลักษณ์ที่หรูหรามากขึ้น
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟได้รับการพัฒนาก้าวขึ้นไปอีกระดับ สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ถูกพัฒนาให้สมรรถนะความแรง และประหยัดน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีที่ฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ผนวกกับหัวฉีดดีไซน์ใหม่ ส่งผลให้มีอัตราส่วนกำลังอัดสูง แรงบิดเพิ่มขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร*
เทคโนโลยีใหม่ของการขับขี่โดยใช้ปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง ALL-NEW MAZDA3 มาพร้อมแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ที่ได้รับการพัฒนาจากท่วงท่าการเดินของมนุษย์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีสมดุล ต่อยอดไปสู่การพัฒนาตัวรถในหลายจุด เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับรถที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทำให้การควบคุมการขับขี่ทำได้ง่ายและเป็นธรรมชาติเสมือนการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยพัฒนาตั้งแต่ยางรถยนต์ที่ซับแรงกระแทกจากพื้นถนน ขึ้นมาสู่ระบบช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้สามารถตอบสนองต่อแรงกระทำจากพื้นถนนได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระจายแรงออกไปสู่โครงสร้างตัวถังอย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่องไปถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสารผ่านเบาะนั่งที่ได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อรักษาความสมดุลให้ใกล้เคียงกับท่วงท่าการเดินของมนุษย์ และช่วยลดความอ่อนล้าจากการขับขี่
ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถรับรู้ถึงความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) โดยระบบจะปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถสามารถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้ง 4 ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ขับขี่แก้พวงมาลัยน้อยลง ควบคุมรถง่าย และแม่นยำยิ่งขึ้น สามารถเข้าโค้งและออกจากโค้งได้นุ่มนวล ลดอาการเมื่อยล้าสะสมจากการขับรถทางไกลของผู้ขับขี่ และการโคลงตัวไปมาของผู้โดยสาร
ห้องโดยสารหรูหราด้วยวัสดุเกรดพรีเมียมครบครันทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ภายในห้องโดยสารเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียมคุณภาพสูง ผ่านการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมดในทุกรายละเอียดโดยยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเบาะดีไซน์ใหม่ที่โอบกระชับ รองรับสรีระช่วยให้กระดูกเชิงกรานตั้งตรง แนวกระดูกสันหลังคงรูปตัว S เหมือนขณะเดิน เพื่อให้การขับขี่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติและสมดุล ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการขับขี่ สะดวกยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน การเชื่อมต่อสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วย Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน สัมผัสกับห้องโดยสารที่เงียบขึ้น และระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
*ผลการทดสอบตามมาตรฐาน UN101 Combine Mode
มาสด้ายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE สำหรับ ALL-NEW MAZDA3 ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขีดความสามารถอย่างจริงจัง โดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุประกอบด้วย
ALL-NEW MAZDA3 มีให้เลือก 7 สี ประกอบด้วย
ราคาจำหน่าย ALL-NEW MAZDA3 มีให้เลือก 3 รุ่น ทั้งรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู จำหน่ายในราคาเดียวกัน
หมายเหตุ
* ฟรีค่าแรงการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 10 ครั้ง ทุก 6 เดือน หรือ ทุก 10,000 กม. ตั้งแต่ 10,000 – 100,000 กม.
** ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน
ตามเงื่อนไขโปรแกรม Mazda Added Protection
19 กันยายน 2562
ผู้ชม 670 ครั้ง