นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ข้าราชการและพนักงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้ง 22 หน่วยงาน ได้พร้อมใจกันจัดทำโครงการ “คมนาคมร้อยดวงใจ เทิดไท้องค์ราชัน” ถวายพระพรชัยมงคล และถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน โดยได้มอบธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติให้กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ประกาศเจตจำนงการบรรลุเป้าหมายในการบริจาคโลหิตร่วมกันของบุคลากรกระทรวงฯ รวมทั้งสิ้น 2 ล้านซีซี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมอบทุนการศึกษา จำนวน 172 ทุน ให้กับนักเรียนในโรงเรียนบริเวณรอบท่าเรือกรุงเทพ เพื่อเพิ่มโอกาสและสร้างขวัญกำลังใจให้กับเยาวชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างและพัฒนาสังคม รวมถึงประเทศชาติที่ยั่งยืนในอนาคตต่อไป

 

 

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ผู้บริหารและพนักงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้นที่ได้มาร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระราชวิริยอุตสาหะทรงดำรงพระองก์เป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการทั้งปวงในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สุขของปวงประชา ซึ่งข้าราชการและพนักงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมทุกคนจักได้น้อมนำมาประพฤติปฏิบัติตามให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อสนองพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดีสืบไป

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัดได้ร่วมกันดำเนินโครงการคมนาคมร้อยดวงใจ เทิดไท้องค์ราชัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยในวันนี้ (24 กรกฎาคม 2567) ผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานในสังกัด รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้แทนสายการเดินเรือ ผู้ประกอบการ และประชาชนในชุมชนรอบพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ จำนวน 7,200 คน ได้รวมตัวกัน ณ บริเวณลานริมน้ำ อาคาร OB ท่าเรือกรุงเทพ เพื่อร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างพร้อมเพรียงกัน พร้อม ๆ กับข้าราชการและพนักงานหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ ในภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งในโอกาสนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้กับหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ และส่งต่อให้ส่วนราชการที่มีหน่วยงานในส่วนภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 72 ผืน พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษา จำนวน 172 ทุน ให้กับนักเรียน จำนวน 6 โรงเรียน บริเวณรอบท่าเรือกรุงเทพ ประกอบด้วย โรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา โรงเรียนวัดคลองเตย โรงเรียนวัดสะพาน โรงเรียนสามัคคีสงเคราะห์ โรงเรียนไทยประสิทธิ์ศาสตร์ และโรงเรียนศูนย์รวมน้ำใจ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนไทยด้วย

ในโอกาสนี้ กระทรวงคมนาคมได้ร่วมสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดำเนินโครงการรวมน้ำใจบริจาคโลหิต ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ โดยมีเป้าหมายในปี 2567 จำนวน 2 ล้านซีซี ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นมา มีผู้บริหารและบุคลากรของกระทรวงฯ ได้ร่วมกันบริจาคโลหิตไปแล้วมากกว่า 1.4 ล้านซีซี ในวันนี้จึงได้มอบป้ายประกาศเจตจำนงการบริจาคโลหิตของกระทรวงคมนาคมให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติเพื่อเป็นการกำหนดเป้าหมายร่วมกันและเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2567 บุคลากรของกระทรวงคมนาคมจะรวมใจกันบริจาคโลหิตจนครบ 2 ล้านซีซี เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่จำเป็นต้องใช้โลหิตและนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยทั่วประเทศต่อไป

 

 

อย่างไรก็ตาม นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพเจ้าของพื้นที่ กล่าวว่า “การท่าเรือฯหนึ่งในหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เปิดพื้นที่ลานริมน้ำ OB ท่าเรือกรุงเทพ ต้อนรับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้ง 22 หน่วยงาน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของเรา เนื่องในโอกาสปีมหามงคลนี้ กทท. ได้ร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ผ่านโครงการที่สำคัญ โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ทั้งด้านการศึกษา ศาสนา สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข มาเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการ ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนการจัดหารถหน่วยคัดกรองมะเร็งนรีเวช จำนวน 36,720,400 บาท โครงการคมนาคมร่วมใจปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติฯ โครงการท่าเรือรักชุมชน โดยการมอบทุนการศึกษา การเปิดหน่วยบริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม (ร่วมกับมูลนิธิกาญจนบารมี) ตลอดจนการจัดหาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้ประชาชน ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสและสร้างสรรค์สังคมที่ดี ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน”